โปรไบโอติกส์ คืออะไร
หากใครเคยได้ยินคำว่า โปรไบโอติกส์ จากโฆษณาอาหารเสริม หรือโยเกิร์ต แล้วยังสับสนว่ามันคืออะไรกันแน่ ต้องอ่านบทความนี้แล้วนะ แล้วมาดูกันว่าทำไมโปรไบโอติกส์ถึงสำคัญนัก
.
โดยปกติแล้วในร่างกายคนเรา จะมีเชื้อจุลินทรีย์อาศัยอยู่จำนวนมหาศาลอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “เชื้อประจำถิ่น” ไม่ว่าจะเป็นในลำไส้ ในทางเดินปัสสาวะ ในปาก จมูก หู ผิว ใบหน้า
.
แล้วทำไมมันถึงไม่ทำความเดือดร้อนให้เรา แถมมันยังให้ประโยชน์กับเราด้วยซ้ำไป เช่น การลดน้ำหนัก การขับถ่าย การสร้างภูมิต้านทาน การรักษาผิวพรรณ การลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
.
จึงทำให้เจ้าแบคทีเรียพวกนี้ น่าสนใจขึ้นมาในเรื่องของการรักษาสุขภาพ ด้วยอาหารที่ทางวิทยาศาสตร์เขาเรียกกันว่า โปรไบโอติก (Probiotics)
.
.
โปรไบโอติกส์ คืออะไร
โปรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต ในปริมาณที่พอดี ที่จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จุลินทรีย์ที่ว่านี้อาจจะเป็นแบคทีเรีย หรือยีสบางชนิดก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจุลินทรีย์ทุกตัวจะเป็นประโยชน์นะ มันแค่บางชนิดเท่านั้น
.
ตัวอย่างอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ เช่น
โยเกิร์ต
คีเฟอร์ (kefir) หรือบางที่ก็เรียกว่าบัวหิมะทิเบต ถ้าเลี้ยงในนมก็เรียกบัวหิมะนม ถ้าเลี้ยงในน้ำก็เรียกบัวหิมะน้ำ
ซาวเออร์เคร้าท์ (Sauerkraut) เป็นกะหล่ำปลีดองของเยอรมัน
ซีอิ๊ว
เทมเป้ (tempeh เป็นถั่วเหลืองหมักของอินโดนีเซีย)
กิมจิ (อันนี้คนไทยรู้จักกันดี)
แอดมินคิดเอาเองนะว่า ของที่เป็นแบบไทยๆ ก็อาจเป็นพวกปลาร้า ปลาส้ม ก็ได้นะ แต่ถ้าเอาไปทอดหรือโดนความร้อน เชื้อมันก็ตายหมดอยู่ดีนะ
อาหารเสริมบางชนิดก็มี
ฯลฯ
.
อย่าสับสนกับคำว่า พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) เพราะคำว่าพรีไบโอติกส์ ก็คือ อาหารที่มีอินนูลิน และโอลิโกแซคคาไรด์ ให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือไฟเบอร์ชนิดละลายในน้ำได้และเกิดการหมัก ซึ่งช่วยให้โปรไบโอติกส์(แบคทีเรีย) ทำงานได้ดีขึ้น
พรีไบโอติกส์ พบได้ใน หน่อไม้ฝรั่ง กล้วย กระเทียม หัวหอม ต้นอ่อนกระเทียม มะเขือเทศ ข้าวบาเล่ย์ ข้าวไรย์ โฮลเกรน เห็ด เผือก ฯลฯ
.
.
โปรไบโอติกดียังไง
อย่างที่บอกว่าในร่างกายเราจะมี เชื้อประจำถิ่นอาศัยอยู่มาก โดยเฉพาะลำไส้ ซึ่งถ้าเชื้อไม่ก่อโรคพวกนี้น้อยลง ก็ทำให้มีเชื้อแปลกปลอมที่ไม่ประจำถิ่นเข้ามาแทนที่ ก็อาจทำให้ก่อโรคได้ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการชักนำไปสู่โรคต่างๆได้ เช่น
โรคอ้วน โรคเบาหวาน Metabolic Syndrom โรคหัวใจ โรคมะเร็งลำไส้ โรคอัลไซเมอร์ ฯลฯ
โดยที่ โปรไบโอติก และพรีไบโอติกส์ จะเป็นตัวช่วยสร้างความสมดุลให้ระบบต่างๆในร่างกายเราได้เป็นอย่างดี
.
โปรไบโอติกส์กับระบบย่อยอาหาร
สังเกตุว่าคนที่ได้รับยาปฏิชีวนะต่อเนื่องกันนานๆ จะทำให้ท้องเสียบ่อย เพราะเชื้อประจำถิ่นตายหมด ทำให้เชื้ออื่นๆที่ทนต่อยาได้เข้ามาครองพื้นที่ได้ง่าย
โปรไบโอติกช่วยลดอาการท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย ต้านการอักเสบในลำไส้ ต้านมะเร็งในลำไส้
.
โปรไบโอติกกับการลดน้ำหนัก
พบว่าคนอ้วนมีแบคทีเรียในลำไส้ที่แตกต่างจากคนผอม
จากการทดลองในสัตว์โดยให้สัตว์ที่อ้วนกินอุจจาระของสัตว์ที่ผอม ปรากฏว่าสามารถทำให้สัตว์ที่อ้วน ผอมลงได้ด้วย
ส่วนการทดลองในคน โดยให้คนอ้วนกินโปรไบโอติกส์ คือเชื้อ Lactobacillus gasseri ผลปรากฏว่าทำให้คนอ้วนลดไขมันได้ถึง 8.5% ภายใน 12 สัปดาห์เท่านั้น แต่พอให้หยุดกิน ก็น้ำหนักเพิ่มขึ้นภายใน 4 สัปาดาห์
เขาเลยสรุปว่าโปรไบโอติกส์ ช่วยลดน้ำหนัก และป้องกันโรคอ้วนได้
แต่ก็อย่าเพิ่งปักใจนัก เพราะก็มีการทดลองในสัตว์บางชนิดที่ไม่ผอมลง แต่กลับอ้วนขึ้นเหมือนกัน
.
โปรไบโอติกส์กับสุขภาพด้านอื่นๆ
ต้านการอักเสบ
ลดอาการทางจิต เช่น อาการซึมเศร้า ความกังวล แอดมินคิดว่าน่าจะหมายถึงทำให้สดชื่น รู้สึกดี
ลดคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะไขมันเลว (LDL)
ปรับสมดุลให้มีความดันเลือดเป็นปกติ
สร้างภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อ ป้องกันหวัด
ป้องกันสิว และปัญหาผิว เช่น ผิวแพ้ง่าย เกลื้อน ผิวแดง ฯลฯ
จริงๆแล้วนี่เป็นแค่ประโยชน์เด่นๆของโปรไบโอติกส์นะ ยังมีประโยชน์อื่นอีกมาก
.
สรุปแล้ว โปรไบโอติกส์ มันดีต่อสุขภาพมากๆ และหลายๆด้านด้วย แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมนะ
.
.
ผลข้างเคียง
โปรไบโอติกส์ปลอดภัยกับทุกคนอยู่แล้ว แต่คนที่เพิ่มเริ่มแรกๆอาจมีการปวดท้อง มีแก๊ส ถ่าย หรืออาการแปลกกว่าปกติเล็กน้อยได้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ดีขึ้นเอง
แต่ต้องระวังมากๆ สำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ หรือโรคอื่นๆ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ถ้าไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
.
.
แอดมินขอเสริม
ในการลดน้ำหนัก และการดูแลสุขภาพ แอดมินคิดว่าก็ต้องยึดหลักกินให้หลากหลาย ครบ5หมู่ ไม่มากไป ออกกำลังกาย
ส่วนจะหาโปรไบโอติกส์ได้จากไหนนั้น ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คงเป็น โยเกิร์ต และนมเปรี้ยวแบบพาสเจอร์ไรส์ (วิธีเลือกโปรไบโอติกส์)
สำหรับนมเปรี้ยวแบบกล่องยูเอชที จะไม่มีโปรไบโอติกส์นะ เพราะเชื้อตายหมดแล้ว
หรือบางคนก็เลือกอาหารเสริมเป็นทางเลือกแบบง่ายๆ ก็มีเยอะแยะตามกำลังทรัพย์กันค่ะ
ที่สำคัญคือ ควรทานผัก ผลไม้ ให้มากๆ หลากหลาย เพื่อเพิ่มโปรไบโอติกส์ให้มีประสิทธิภาพค่ะ
.
ข้อมูลจาก authoritynutrition.com