NCDs Reality ตอนที่4

NCDs Reality ตอนที่4 : รู้จักและเข้าใจ

     ครั้งที่แล้ว NCDs Reality ตอนที่3 อาสาสมัครทั้ง3 ได้พบกับที่ปรึกษาหัวอกเดียวกันมาแล้ว  ครั้งนี้ยังเหลืออาสาสมัครอีก 3 คน จะพบกับที่ปรึกษาคนไหน ติดตามกันต่อได้เลยค่ะ

.

สรุป NCDs Reality ตอนที่4 : รู้จัก และเข้าใจ

(ถอดความให้สำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูคลิป 50 นาที หรือดูคลิปไม่ได้นะคะ)

กลุ่มโรค NCDs แบ่งได้เป็น6 โรคคือ

1. โรคเบาหวาน มาจากการกินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินไป จนตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลิน มาจัดการกับน้ำตาลออกไปได้ทัน ทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น เบาหวานขึ้นตา ทำให้ตาบอด เบาหวานลงไต ทำให้ไตเสื่อมสภาพ

2.โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ  ถ้าเรากินไขมันมากเกินไป มันก็จะไปเกาะตามหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดอุดตัน ยิ่งถ้าสูบบุหรี่ด้วย สารนิโคติน จะไปอุดพร้อมกับไขมัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย เสี่ยงต่ออัมพฤกษ์ อัมพาต

3.โรคมะเร็ง  มาจากพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ จะทำให้เซลล์ต่างๆ แบ่งตัวผิดปกติ กล้ายเป็นเซลล์ร้าย

4.โรคอ้วนลงพุง เกิดจากกินมากเกินไป จนเหลือใช้ สะสมเป็นไขมันตามส่วนต่างๆ โดยเฉพาะที่พุง ซึ่งจะนำไปสู่.โรคหัวใจวาย โรคเบาหวาน โรคเส้นเลือดในสมองตีบ  ระบบหัวใจผิดปกติ  โรคนิ่วในถุงน้ำดี  โรคข้อเข่าเสื่อม

5.โรคถุงลมโป่งพอง เกิดจากการสูบบุหรี่ ทำให้ปอด และหลอดลม ถูกทำลาย เกิดอาการไอเรื้อรัง หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้

6.โรคความดันโลหิตสูง จากการพฤติกรรมการใช้ชีัวิต เช่น กินเค็มจัด หวานจัด มันจัด ขาดการออกกำลังกาย มีความเครียดสูง ทำให้หลอดเลือดทำงานผิดปกติ อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดในสมองตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิตได้

แต่คุณสามารถเลี่ยงได้ ก็ลดความเสี่ยงจากกลุ่มโรค NCDs ได้แล้ว

เพราะการป้องกัน ง่ายกว่าการรักษา

.

 

คุณ ภูริวัจน์ ธรรมอัครวิทย์ (นัท) อายุ 34 ปี

     ทั้งภรรยา(ที่แยกกันอยู่ เพราะเรื่องพฤติรรมการใช้ชีวิตไม่ดี) ทั้งแม่ ก็คอยเตือน คอยขอให้เลิกบุหรี่ แต่ก็ไม่ยอมเลิกซะที  ก็ไม่รู้จะทำยังไง

     ผมปกติจะเคยชินกับการสูบบุหรี่นอกบ้าน เดินออกไปทำอะไร ก็ต้องสูบบุหรี่ มันเลยเป็นความเคยชินไปแล้ว ว่าเดินออกนอกบ้านหน้าบ้านต้องสูบ

     ได้ที่แรงบันดาลใจคือคุณสมศรี หิรัญรัศมีโรจน์ อายุ 74 ปี    ซึ่งเป็นมะเร็งกล่องเสียงจากควันบุหรี่  เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบ  จากควันบุหรี่มือสองจากสามี จนเป็นมะเร็งกล่องเสียง ได้รับการผ่าตัดกล่องเสียง(เสียงเหมือนหุ่นยนต์เลย)มา 10 กว่าปีแล้ว

      คุณยายเล่าว่า แต่งงานมาตั้งแต่อายุ 17 สามีสูบบุหรี ตั้งแต่อายุ 20 กินเหล้าด้วย  เริ่มแรกมีอาการเสียแหบ เป็นๆหายๆ พอรู้ว่าเป็นมะเร็งกล่องเสียง ต้องผ่าตัด ก็น้ำตาไหล  และพอผ่าตัดแล้ว ก็ต้องฝึกพูดจากหลอดอาหาร ฝึกพูดเหมือนเด็กเลย

      “ผมก็น่าสงสารคุณยาย  ที่ต้องมารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ  ดูรูที่คอ ดูการใช้ชีวิต ดูความลำบากในการออกเสียง ทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด “

       “ผมก็รู้นะว่าสูบบุหรี่มันไม่ดี ไม่รู้จะสูบทำไม แต่ก็สูบ  ก็คิดนะว่าต่อไปภายภาคหน้าจะเป็นยังไงถ้ายังสูบอยู่ จะลำบางยังไง ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วมันจะดีขึ้นมั้ย”

       ส่วนแฟนก็เป็นห่วงมาก “ควรจะเลิกอย่างจริงจังได้แล้ว  คิดว่าได้ยินจากคุณยายแบบนี้แล้ว น่าจะดีขึ้นนะ”

       “ผมคิดว่า ถ้าอีก 30 ปีข้างหน้า ตัวเรา ภรรยา หรือลูกเรา เป็นแบบนี้ คงเสียใจ  หลังจากไปเจอกับอาม่าสมศรี เราได้แรงกระตุ้น คือ กลับมาตั้งใจ วันนี้ยังไม่ได้สูบบุหรี่เลยซักตัวนะ ก็ยากอยู่เหมือนกันนะ อยากสูบมาก รู้สึกตัวชาๆ คันๆจมูกเหมือนขาดสารอะไรไป  แต่คิดว่าถ้าไปประชุมงาน คงต้องสูบแน่เลย”

.

.

จ.ส.อ.ศาทิพ จิตร์แน่น  อายุ 36 ปี

       ก่อนอื่นก็ไปตรวจเข่าที่เคยเกิดอุบัติเหตุ และเคยปวดอยู่  แต่หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วงมากเท่าไหร่ แต่มีไขมันสะสมเยอะมาก  หมอได้แนะนำการออกกำลังกาย สำหรับคนที่มีปัญหาด้านหัวเข่า โดยการใช่ลู่วิ่ง ต้องเดินเบาๆความเร็ว  5-6 กม./ชม.  หรือเดินในน้ำช่วยทุ่นแรง   และไม่ควรใช้เครื่องออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงดัน เพราะเรามีความดันสูง

       ความดันจะมีค่าตัวบน คือหัวใจบีบตัว ตัวเลขปกติคือ 120   ส่วนค่าตัวล่าง คือหัวใจคลายตัว ตัวเลขปกติคือ80  แต่ถ้าอาหาร อารมณ์ พฤติกรรมต่างๆ น้ำหนักตัวเกิน อ้วน ส่งผลต่อความดันแน่นอน

      หลักการดูแลเรื่องความดันคือ อย่าเค็ม-อย่าเครียด  ลดไขมัน ลดน้ำตาล(ไม่ให้เกิน 6ช้อนชา) ลดโซเดียม  สิ่งแรกต้องลดน้ำหนักให้ได้ก่อน ความดันจะลดเอง หมอบอกว่าเขาต้องการกำลังใจมาก เพราะทั้งสังคม สังสรรค์ปาตี้เพื่อนๆเยอะ  ดังนั้นครอบครัวต้องคอยเตือน และให้กำลังใจ โดยเฉพาะลูกชาย  “หมอให้ภรรยามองผม แล้วให้ผมมองลูก”

.

 

คุณ วัฒนชัย ลิ้มสวัสดิ์ (อุ้ย) อายุ 28 ปี

แม่  : “ก็ไม่รู้นะว่าเขากินเหล้า มาหาเราเขารก็ไม่ได้สูบให้เห็น แต่พอเคยไปเยี่ยมเขา เห็นขวดเหล้าเลยถามดู เขาก็ว่าของเพื่อน”

       ทีมงานพาไปที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง  “ผมคิดว่าก็คงเจอพวก หนุ่มหล่อหน้าตาดี มีกล้าม ก็นึกไม่ออกนะว่าจะเจอใครอีกนอกจากพวกนี้”  แต่พอถามว่า แล้วถ้าเจอคนอายุ 60-70 ปี แล้วยังแข็งแรงมีกล้าม จะคิดยังไง “ก็อิจฉาสิ” พอหันหน้าไปเจอปุ๊บตกใจเลย

      อาสุเชาว์ พงษ์วิไล  นักแสดงรุ่นเก๋า(อายุ 68 ปี) ปัจจุบัน แข็งแรงมาก ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และมีวินัย  เล่าว่าเมื่อก่อนก็เป็นคนกินเหล้าเยอะ  มีสังคมเยอะ ไม่เมาไม่เลิก เคยเมาเฉียดตายมาแล้ว  เมาไม่รู้เรื่องเลย ตื่นขึ้นมาอีกที พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ถนน เกือบโดนรถบรรทุกทับ   ในวงเหล้าก็จะมีเรื่องคุยกัน  ถ้าไม่กินเหล้าก็คุยกับเขาไม่ได้  แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นต้องกินเหล้าด้วยเลย ก็นั่งคุยงานกันได้ปกติ  เพราะเขาให้เราทำงาน ไม่ใช่ให้มากินเหล้าด้วยกัน  ผมหยุดได้เอง ไม่ต้องมีใครบอก แต่ก็เพราะลูกสาวสองคนด้วย อยากทำเพื่อลูก

       ” โหยได้คนที่เหมือนเราเลย  เคยอ้วน กินเหล้าเยอะ อ้างตลอดว่าไม่มีเวลา แต่อาเขาก็เป็นดารา ทำงานวงการเดียวกัน ยังทำได้เลย”

ได้รับคำแนะนำการออกกำลังกาย โดยรวม ก็เป็นการมาเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้ “ทำแล้วก็รู้สึกเหมือนไปนวดมา รู้สึกดีมากเลย กล้ามเนื้อมันผ่อนคลาย มีพลัง”

“เริ่มต้นเมื่อไหร่ก็ยังไม่สาย แต่ไม่ควรรอให้ถึงอายุ 60 อย่างผม”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.