อยากดูดีเหมือนนักกีฬา ต้องคิดเหมือนนักกีฬา

runner_stretching

ทุกครั้งที่ดูข่าวกีฬา เห็นนักกีฬาทีไร ก็อดชื่นชมรูปร่างดีๆของพวกเขาไม่ได้

เคยคิดว่าพวกเขาเคยเบื่อกับการฝึกซ้อมมั้ย เหนื่อยมั้ย ทำไมต้องเคร่งครัดขนาดนั้น

จนกระทั่งมีคนรู้จักคนนึงแค่เคยพบกัีนในสวนสาธารณะบ่อยๆ รูปร่างและหุ่นดูดีไม่มีที่ติ

จึงตัดสินใจลองถามด้วยความอยากรู้ว่า มาออกกำลังกายทุกวันเลย ไม่เหนื่อยหรอ

ทั้งๆที่ทำงานประจำ กว่าจะกลับก็เย็นหรือดึกแล้ว ก็ยังเห็นทุกครั้ง

เขาตอบกลับมาด้วยความอารมณ์ดีว่า “ก็มันสนุกดี”

ออกกำลังกายเพราะ”รัก”

.

ยอมรับว่าเริ่มแรกของการออกกำลังกาย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำได้เป็นประจำ

ก่อนจะเริ่มเยื้องย่างกายออกมา ก็พยายามถ่วงเวลา นั่งพักเหนื่อยบ้างทั้งที่ไม่ได้เหนื่อย

หาของกินก่อนกลัวไม่มีแรง ขณะที่กำลังออกกำลังกายก็คิดแต่จะรีบออกกำลังกายให้เสร็จๆไป

หาเรื่องเลี่ยงที่จะไม่ไปออกกำลังกาย เหนื่อยบ้าง ป่วยบ้าง ไม่มีแรงบ้าง อารมณ์ไม่ดีบ้าง

.

พอได้ยินคำพูดของพี่คนนั้น จึงเข้าใจว่า เราต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้ว

แต่สำหรับนักกีฬา ดิฉันมั่นใจว่าพวกเขาต้องมีมากกว่าความสนุก

เขาต้องมีเป้าหมายในใจแน่วแน่ จดจ่ออยู่กับผลลัพธ์สุดท้าย

จึงนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเองโดยที่ แทนที่มัวแต่มองนาฬิกาว่า ปั่นจักรยาน

ไปกี่นาทีแล้ว เมื่อไหร่จะครบซะที ก้มมองทุกๆ2นาที  ก็เปลี่ยนเป็น

ไม่มองนาฬิกาเลย เปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ ไม่ต้องนับหรอกว่าใช้แคลอรี่ไปเท่าไหร่แล้ว

คิดถึงแต่ด้านบวกว่า ยังไหว ยังมีแรง จนกระทั่งเหนื่อยมากๆค่อยก้มดูนาฬิกา

ปกติจะคิดถึงอาหารหลังออกกำลังกาย หนังที่ดูค้างไว้ ก็เปลี่ยนเป็น

ไม่คิดถึงขนม ไม่คิดถึงอาหาร ไม่คิดถึงอะไรทั้งนั้น ปล่อยอารมณ์ไปกับความสนุก

เคล็ดลับการค้นหาเวลาออกกำลังกาย

.

ความคิดที่เลียนแบบนักกีฬาอีกแบบก็คือ “จดจ่อกับผลลัพธ์”

อาจจะเป็นรูปร่างที่กระชับ มีกล้ามท้อง มีความแข็งแรง กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง

สุขภาพดีขึ้น ไม่ค่อยป่วยง่าย คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง

.

independent-herbalife-agency-opportunity-theres-never-been-better-time-invest-your-health-futureits
ภาพจากเวป almaty.admir.kz ที่นำมาเป็นไอดอลของดิฉัน

สำหรับนักกีฬาก็คงมีไอดอลเป็นของตัวเอง ตัวเราก็มีไอดอลรูปร่างที่ตัวเองใฝ่ฝันได้

ในเรื่องของการกิน นักกีฬาก็คงคิดถึงผลลัพธ์ระยะยาว มากกว่าจะคิดถึงแต่ของกิน

เพราะถ้าใครเป็นคนออกกำลังกายประจำ ก็จะรู้สึกเสียดายเวลา

ที่ต้องอยู่บนลู่วิ่งนานขึ้นเป็นชั่วโมง เพียงแค่แลกกับโดนัทที่มาอยู่ในปากแค่ไม่กี่นาที

ดิฉันกลายเป็นคนขี้เกียจกินขนม รู้จักปฏิเสธขนม และควบคุมปริมาณขนมได้

เพียงเพราะไม่อยากเหนื่อยกับการออกกำลังกายมากขึ้นโดยไม่จำเป็น

ทำอย่างไรเมื่อหลุดโปรแกรมลดน้ำหนัก

.

แนวคิดแบบนี้ใช้ได้กับทุกช่วงชีวิต และตลอดไป ไปว่าจะอายุมากขึ้น

หรือวันที่ยุ่งๆ ก็จะรู้สึกว่าสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ฝืน

และสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่มีขีดจำกัด

เพื่อนๆลองฝึกคิดให้เหมือนเราเป็นนักกีฬา ที่แข่งกับตัวเองไม่ต้องแข่งในสนามกับคนอื่น

ลองทำซัก 1 สัปดาห์ ถ้ารู้สึกดี ก็ทำต่ออีก 1 เดือน ถ้ารู้สึกดีขึ้นก็เพิ่มเวลา เพิ่มความหนัก

ไปเรื่อยๆ  แต่ถ้ารู้สึกฝืน รู้สึกไม่ดี หรือยังไม่พร้อม ให้ลองไปนั่งดูคนอื่นออกกำลังกายก่อนก็ได้

เขียนโดย ezygodiet.com

หากคิดว่าบทความนี้พอมีประโยชน์บ้าง

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น

แบ่งปันให้เพื่อนๆ มีสุขภาพดีๆ กันถ้วนหน้าด้วยนะคะ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.