11 เรื่องโกหกของอาหาร
บอกว่าเป็น เรื่องโกหกของอาหาร ก็ไม่เชิง เพราะงานวิจัยย่อมมีการศึกษาเพิ่มเติม มีข้อมูลใหม่ๆเข้ามาแทนที่ได้ตลอดเวลา อาจเรียกว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดในสมัยก่อนก็ย่อมได้นะ
แม้ว่าข้อมูลนี้จะมีงานวิจัยอ้างอิง แต่ก็ยังมีข้อมูลที่ขัดแย้งกับองค์กรสุขภาพอยู่บ้าง เอาเป็นว่าถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็แล้วกันค่ะ
1. กินไข่ไม่ดี
ที่เคยได้ยินกันว่ากินไข่มากๆไม่ดีเพราะ ในไข่มีคอเลสเตอรอล ที่อาจทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้
แต่ปัจจุบันได้มีการพิสูจน์แล้วว่า คอเลสเตอรอลในไข่ไม่ได้เป็นตัวทำให้คอลเลสเตอรอลในเลือเพิ่มขึ้นเลย
จริงๆแล้วไข่มีคอเลสเตอรอลก็จริง แต่มันเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดี และที่สำคัญคือ ไข่มีสารอาหารสูงและหลากหลายมาก โดยเฉพาะแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยปกป้องดวงตาของเรา
2. ไขมันอิ่มตัวไม่ดี
เมื่อก่อนมีการตั้งสันนิษฐานกันว่า ไขมันอิ่มตัว (saturated fat) ก่อให้เกิดโรคหัวใจ แต่ปัจจุบันได้มีงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่ามันไม่จริงเลย
แถมไขมันอิ่มตัวยังช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) และเปลี่ยนไขมัน small LDL (ไขมันเลว) ไปเป็น Large LDL (ดีกว่า)
ไขมันอิ่มตัวพบมากใน เนื้อสัตว์ น้ำมันมะพร้าว ชีสและเนยแท้ๆ ที่ไม่ผสมน้ำมันพืช จะเห็นว่าอาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาหารที่มีประโยชน์แทบทั้งสิ้น
3. ทุกคนควรกินข้าว
ใน authoritynutrition จะใช้คำว่า grains ซึ่งก็หมายถึงพวกเมล็ดข้าวต่างๆ โดยเฉพาะข้าวสาลีที่เอามาทำขนมปัง ในแป้งสาลีจะมีกลูเตนที่อาจเป็นอันตรายกับบางคนที่แพ้ได้ ซึ่งจะไปทำลายเยื่อบุลำไส้ ทำให้ปวดท้อง ท้องอืด ฯลฯ ในเมล็ดข้าวพวกนี้ จะมีสารอาหารที่น้อยกว่าผักซะอีก
4. กินโปรตีนมากๆไม่ดีต่อกระดูกและไต
เคยได้ยินมั้ยว่าการกินโปรตีนสูงจะทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน และเป็นโรคไต เพราะว่าเมื่อเรากินโปรตีนที่มาก แคลเซียมก็จะถูกดึงออกจากกระดูกมากขึ้น(ในระยะสั้น) แต่ในระยะยาวแล้วโปรตีนนี่แหละเป็นตัวบำรุงกระดูก และไตที่ดีเลยล่ะ
5. อาหารไขมันต่ำดี
รู้หรือไม่ว่า อาหารไขมันต่ำ ก็คืออาหารแปรรูปชนิดหนึ่ง เพราะเขาต้องดึงไขมันออกแล้วก็ต้องเติมอะไรบางอย่างเข้าไปแทน เช่น น้ำตาล แป้ง และอย่างอื่นๆที่เราไม่รู้ ฉะนั้นการกินอาหารที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดแม้ว่าจะมีไขมัน มันก็เป็นไขมันจากธรรมชาติล้วนๆ
6. ควรกินมื้อเล็กๆตลอดทั้งวัน
เหตุผลที่ให้กินมื้อเล็กๆทั้งวัน ก็เพื่อให้มีการเผาผลาญอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีอาหารร่างกายก็เพิ่มการเผาผลาญ แต่ลืมนึกถึงแคลอรี่รวมที่เกินจากการกินทั้งวัน
มีงานวิจัยที่บอกว่าคนที่กินวันละ 6 มื้อ กับวันละ 3 มื้อ แทบจะไม่ได้แตกต่างกันในเรื่องของความอิ่ม
แถมยังบอกอีกว่า ตอนที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร ร่างกายก็จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดขยะ ดังนั้นการเว้นช่วงกินก็ถือว่าดี
แต่แอดมินคิดว่า มันไม่ได้สำคํญว่าจะกินกี่มื้อ แต่มันสำคัญที่แคลอรี่รวมทั้งวัน และทำยังไงไม่ให้เราทรมานกับความหิว ทุกอย่างอยู่ที่ความพอเหมาะพอดีค่ะ
7. ควรกินคาร์บเป็นอาหารหลัก
จากที่หน่วยงานต่างๆด้านสุขภาพได้แนะนำสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตที่ 50-60% และให้กินไขมันน้อยๆ เนื้อสัตว์ และไข่น้อยๆ
คนที่รูปร่างปกติก็คงทำแบบที่แนะนำนี้ได้ แต่สำหรับคนอ้วน การกินคาร์บที่เยอะขนาดนี้เป็นเรื่องอันตราย ควรกินคาร์บให้น้อย และกินไขมันให้เยอะต่างหาก
8. โอเมก้า-6ในน้ำมันพืชดี
ตามที่รู้ๆกันอยู่ว่า Polyunsaturated fats หรือไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ที่สำคัญ 2 ชนิดได้แก่ โอเมก้า-6 และ โอเมก้า-3
แต่ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ว่านี้ มันก็มีหลายชนิดซึ่งมีทั้งดีและไม่ดีด้วยเหมือนกัน
ในการที่จะก่อประโยชน์ สัดส่วนของโอเมก้า-6 และ โอเมก้า-3 จะต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม แปลว่าถ้าได้รับตัวใดตัวหนึ่งสูง ก็จะสร้างปัญหาให้ร่างกายแล้ว
ทีนี้ปัญหาก็คือ โอเมก้า-6 มักพบได้มากกว่า โอเมก้า-3 คนเราทุกวันนี้กินโอเมก้า-6 มากเกินไป ในขณะที่โอเมก้า-3 แทบจะไม่ได้รับเลย จึงทำให้สัดส่วนของทั้งสองตัวไม่เหมาะสม
โอเมก้า-6 มักอยู่ในน้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันพืชส่วนใหญ่ ฯลฯ ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว(มีไขมันอิ่มตัวสูง)
ทางออกของเรื่องน้ำมันคือ ควรกินโอเมก้า-3 เพิ่มจากอาหารเสริม น้ำมันตับปลา แต่ให้เลี่ยงน้ำมันจากพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว)
9. โลว์คาร์บอันตราย
อ้างอิงจากงานวิจัยหลายงานสรุปได้ดังนี้
โลว์คาร์บ สามารถลด body fat ได้มากกว่าการจำกัดแคลอรี่ร่วมกับการกินไขมันต่ำ
โลว์คาร์บ ช่วยลดความดันโลหิต
โลว์คาร์บ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้ผู้ป่วยเบาหวานอาการดีขึ้น ได้ดีกว่าlow-fat
โลว์คาร์บ ช่วยเพิ่ม HDL ที่เป็นไขมันดีได้มากกว่า
โลว์คาร์บ ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้มากกว่า
โลว์คาร์บ ช่วยเปลี่ยนรูป LDL จากฟอร์มเล็กซึ่งเป็นไขมันเลว ให้เป็นฟอร์มใหญ่ซึ่งเป็นไขมันดี
โลว์คาร์บ อนุญาติให้กินอาหารได้มากโดยไม่ต้องจำกัดแคลอรี่ ทำให้ไม่รู้สึกหิว เพียงแต่ไม่ให้กินคาร์บเท่านั้นเอง
10. น้ำตาลไม่ดีเพราะเป็นแคลอรี่ที่ไร้ค่า
ประโยคนี้ก็ถูกแล้ว ที่น้ำตาลเป็นสิ่งที่ให้แคลอรี่ โดยไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรเลย หรือจะเรียกว่าเป็นแคลอรี่ที่ไร้ค่าก็ได้
แต่นั่นมันก็แค่เศษเสี้ยวเท่านั้น จริงๆแล้วน้ำตาลไม่ใช่แค่แคลอรี่ที่ไร้ค่าเท่านั้น แต่มันเป็นตัวที่ทำให้ระบบเผาผลาญรวน น้ำหนักขึ้นง่าย และอ้วนง่าย รวมถึงการไปเพิ่มไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลอีกด้วย
น้ำตาลยังส่งผลโดยตรงต่อระดับฮอร์โมน ซึ่งนำไปสู่โรคเบาหวาน กินน้ำตาลมีแต่จะทำให้อ้วนขึ้นๆ ร่างกายแย่ลงๆ ไม่ใช่แค่ไปเพิ่มแคลอรี่เท่านั้น
11. ไขมันในอาหารทำให้ไขมันในเลือดสูง
มันฟังดูเหมือนน่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะกินไขมัน มันก็ต้องสะสมเป็นไขมัน แต่ในความเป็นจริงมีงานวิจัยที่สนับสนุนมากมายที่บอกว่า การกินอาหารไขมันสูง (แต่คาร์โบไฮเดรตต่ำ) จะช่วยลดไขมันได้มากกว่าการกินอาหารไขมันต่ำ
แต่การกินอาหารไขมันสูง ควบคู่กับคาร์โบไฮเดรตสูงด้วย ก็ทำให้ไขมันสูงได้ แต่ที่สูงไม่ได้เป็นเพราะกินไขมันสูง แต่เพราะกินคาร์บสูงต่างหาก
สรุปข้อมูลจาก authoritynutrition.com