การลดน้ำหนักอาศัยหลักการง่ายๆคือ
พลังงานเข้า น้อยกว่า พลังงานออก
แม้ว่าการใส่ใจเรื่องการกินนั้น สำคัญกับการลดน้ำหนัก มากกว่าการออกกำลังกาย
แต่ก็อย่าคิดเลี่ยงการออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะช่วยเร่งลดน้ำหนักแล้ว
ยังช่วยเรื่องสุขภาพ กระตุ้นให้หัวใจแข็งแรง และกลายเป็นคนอ้วนยากด้วย
.
ออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผล
1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และ แบบออกแรงต้าน ต้องทำควบคู่กัน
ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คือ ออกกำลังกายแบบเหนื่อยมากต่อเนื่อง 30 นาที
เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดด เต้นแอโรบิก ซึ่งจะช่วยลดไขมัน
แต่การออกกำลังกายแบบออกแรงต้าน แบบเกร็งกล้ามเนื้อ คือ
การฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง สร้างมวลกล้ามเนื้อ เช่นการยกเวท ซิทอัพ วิดพื้น
ท่าใช้กล้ามเนื้อต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีระบบเผาผลาญดี
.
2. อย่าคิดว่าเพียงแค่ออกกำลังกายก็ลดน้ำหนักได้
ต้องฝึกการกินให้เป็นสุขภาพให้ได้ก่อน เช่น การควบคุมปริมาณอาหาร
การเลี่ยงอาหารทำลายสุขภาพ การทานอาหารสุขภาพ โปรตีนสูง ไขมันต่ำ สารอาหารสูง
ถ้าเรื่องนี้ยังทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องคิดเรื่องออกกำลังกายเลย
เพราะต่อให้คุณออกกำลังกายมากแต่ก็ยังกินไม่เลือก พลังงานมันก็ออกไม่ทัน
เพราะคนส่วนใหญ่คงไม่ได้มีโอกาสออกกำลังกายวันละหลายๆชั่วโมง
ถ้ายังจะดึงดันที่จะออกกำลังกายอย่างเดียว โดยไม่เลือกกิน ลองแบบนี้ดู
ว่ายน้ำ 90 นาที ต่อเนื่องไม่หยุดทุกวัน จะสามารถลดน้ำหนักได้ ครึ่งกิโลกรัม ภายใน 1 สัปดาห์
.
3. อย่าเชื่อตัวเลขแคลอรี่ที่เผาผลาญมากนัก
ถ้าใช้เครื่องลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยานในฟิตเนส จะมีบอกแคลอรี่ที่เผาผลาญได้
คนส่วนใหญ่มักจะหลงตัวเลขบนหน้าปัด เช่น ปั่นจักรยานมีพนักพิง30 นาที
โดยใช้ความหนืดระดับ2 ตัวเลขบอกว่าคุณเผาผลาญแคลอรี่ได้ 200 แคลอรี่
แต่ในความเป็นจริงอาจจะเผาผลาญได้แค่ 100 แคลอรี่เท่านั้น
หรือถ้าปั่นจักรยานของจริง วิ่งบนถนนจริง ถ้าในตำราบอกว่า วิ่ง 30 นาที 300 แคลอรี่
แต่ถ้าคนน้ำหนักมากๆ อาจเผาผลาญได้มากกว่า ถ้าคนน้ำหนักไม่มาก ก็เผาผลาญได้น้อยกว่า
ลักษณะการวิ่ง บางคนวิ่งเร็ว บางคนวิ่งเอื่อยๆ วิ่ง10เมตร เดิน100 เมตร ไม่ต่อเนื่อง
ดังนั้นอย่ายึดตัวเลขแคลอรี่มากนัก ให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราพอทำไหว
ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างไรให้ลดไขมัน
.
4. รู้จักพัฒนาการออกกำลังกาย ให้นานขึ้น เร็วขึ้น อดทนขึ้น
ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก คุณอาจทำเพราะมีกำลังใจที่อยากผอม
แต่การรักษาน้ำหนักเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ดังนั้นคุณควรพัฒนาจากเดิมที่
แค่ปั่นจักรยานครั้งละ 30 นาที ก็เพิ่มเวลาเป็น 1 ชม. และเพิ่มความหนืด
หรือปกติวิ่งบนทางราบเรียบ ก็ฝึกวิ่งบนทางชัน วิ่งขึ้นบันได เพิ่มความยากเข้าไปเรื่อยๆ
ทำยังไงให้ออกกำลังกายได้ตลอดชีวิต
.
5. อย่าได้ใจ และอย่าท้อถอย
คนส่วนใหญ่มักจะได้ใจคิดว่า ตัวเองออกกำลังกายแล้ว ขอกินเยอะๆหน่อยจะได้มีแรง
กินก่อนออกกำลังกาย หรือกินหลังออกกำลังกายดี
บางคนคุยโวโอ้อวดว่าตัวเองออกกำลังกายทุกวัน แต่ก็แค่เดินคุยโทรศัพท์
ถ่ายรูปคู่กับเครื่องออกกำลังกายโชว์ ยึกยักซัก10นาที ก็หายตัวไปแล้ว
ในขณะที่บางคนหักโหมออกกำลังกายหนักๆวันแรกๆ พอบาดเจ็บ ปวดเมื่อย
ก็มีข้ออ้างเลิก หรือ ออกกำลังกายได้แค่1เดือน แต่น้ำหนักไม่ลดก็หมดศรัทธา
.
การออกกำลังกายไม่ใช่ทำเพื่อไว้โชว์คนอื่น แต่ทำเพื่อสุขภาพตัวเราเอง
ขอให้เพื่อนๆ สู้ๆ สู้กับใจตัวเองนะคะ
เขียนโดย ezygodiet.com
หากคิดว่าบทความนี้พอมีประโยชน์บ้าง
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น
แบ่งปันให้เพื่อนๆ มีสุขภาพดีๆ กันถ้วนหน้าด้วยนะคะ