สูตรลดน้ำหนัก Raw Food

สูตรลดน้ำหนัก Raw Food

สูตรลดน้ำหนัก Raw Food

      Raw Food แนวคิดนี้เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1800  โดยนายแพทย์ Maximilian Bircher-Benner จากการคิดรักษาโรคดีซ่านของเขาเอง ด้วยการทานแอ๊ปเปิ้ลสดๆ (คือต่างประเทศเขาชอบเอาแอ๊ปเปิ้ลไปทำอาหาร โดนความร้อนเยอะๆ)  ก็เลยเริ่มทดลองใช้ raw food เพื่อสุขภาพ และเพื่อลดน้ำหนัก

.

หลักการ

    • คำว่า Raw Food ถ้าแปลตรงตัวคือ อาหารดิบ  แต่อาจหมายความมากกว่านั้น เช่น สดๆ ไม่ปรุง ไม่สุก ไม่โดนความร้อน ธรรมชาติ บริสุทธิ์ ฯลฯ
    • สรุปแแล้วคำว่า Raw Food คืออาหารที่ไม่ทำให้สุกด้วยความร้อน ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป  ไม่เข้าไมโครเวฟ ไม่ฉายรังสี  ไม่ตัดต่อพันธุ์กรรม  ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
    • การที่อาหารผ่านความร้อน จะทำลายวิตามิน เอนไซม์ และสารอาหาร  ที่สำคัญคือ อาหารดิบจะให้แคลอรี่น้อยกว่าอาหารที่ผ่านความร้อนครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
    • Raw Foodมักเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ไขมันและโซเดียมต่ำ แต่ไฟเบอร์สูง จึงช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างดี

.

วิธีการ

    • ขึ้นอยู่กับความเคร่งครัดของแต่ละคน บางคนก็ทาน raw food ถึง 90% ของแคลอรี่ต่อวัน  แต่ตามมาตรฐานแล้วให้ทานRaw Food75-80% ของแคลอรี่ต่อวัน คือ ต้องไม่ผ่านความร้อนเลย  เพราะน้อยคนนักที่จะสามารถทานraw food ได้ 100%
    • อาหารที่จำเป็นต้องสุกถึงจะทานได้จริงๆ จะต้องผ่านความร้อนได้ไม่เกิน 115°F (47°C)
    • นมยังต้องทานสดๆไม่พาสเจอร์ไรซ์  นมกล่อง นมขวด ที่ขายตามร้านไม่ได้แน่นอน (คงต้องมีบ้านอยู่ใกล้ฟาร์ม หรือ เลี้ยงวัวเองนั่นแหละ)
    • นมถั่วเหลืองต้องคั้นเอง โดยคั้นแล้ว ห้ามนำไปต้ม
    • ปลาก็ต้องเป็นปลาดิบๆ(แบบซาซิมิของญี่ปุ่น)  เนื้อสัตว์ยังต้องเป็นเนื้อดิบๆ (จะกินยังไงเนี่ย)
    • ผักต้องเป็นผัก ผลไม้ที่สดใหม่ ไม่ดอง ไม่หมัก ไม่เชื่อม ออร์แกนิค ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง
    • ถั่วเคี้ยวเล่นต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ก็ต้องไม่ผ่านการคั่ว
    • ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ก็ห้ามต้ม (แล้วจะกินยังไงไม่รู้นะ คงให้แช่น้ำ นิ่มๆ แล้วงอกรากออกมานิดนึง เอาไปปั่น)
    • น้ำมันก็ต้องเป็นแบบสกัดเย็น
    • อาหารที่ผ่านกระบวนการหมัก ดอง แปรรูป ห้ามทาน
    • แป้ง และน้ำตาล ก็ห้าม ไม่ว่าจะน้ำตาลขาวหรือแดงห้ามหมด เพราะล้วนผ่านความร้อนมาแล้วทั้งสิ้น อาจต้องอาศัยความหวานจากน้ำผึ้งธรรมชาติแทน ส่วนแป้งต่างๆก็ยังไม่ได้ ข้าวขาวไม่ต้องพูดถึง ข้าวกล้องถ้าไม่หุงไม่โดนความร้อนก็ไม่รู้จะทานยังไง  เขาเลยแนะนำให้ทานพวกเมล็ดธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต เมล็ดทานตะวันสดๆ แบบที่ไม่คั่ว ไม่ปรุง
    • ห้ามทานเกลือ และคาเฟอีน
    • ห้ามทานอาหารที่ต้องใช้เครื่องอบ ดังนั้น ขนมปังจึงไม่ได้
    • อาหารขยะ  แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด ห้ามหมด
    • น้ำผลไม้บรรจุกล่อง (แต่ถ้าน้ำผัก ผลไม้ที่คั้นเองอันนี้ได้)
    • มีวิธีทำให้อาหารสุก พอทานได้เขาเรียกว่า dehydration หรือการเอาน้ำออก โดยใช้อุณหภูมิต่ำๆ แล้วพัดให้อาหารแห้งโดยเร็ว (คือไม่ให้อาหารร้อนเกิน แต่ต้องใช้เวลานานมาก และต้องหั่นอาหารให้เป็นแผ่นบางๆ เพื่อให้สุกง่าย)
    • วิธีการทำขนมแบบไม่ใช้ความร้อนเลย เช่น ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์สด ผสมข้าวโอ๊ต  ผสมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แป้งสำหรับคนทาน raw food โดยเฉพาะเติมความหวานจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง แล้วผสมให้เข้ากัน นำไปปั่น แล้วแช่แข็ง 30 นาที ออกมาเป็นขนมทานเล่นได้

.

ผลลัพธ์จากงานวิจัย

    ทาง usnews.com ได้ยกตัวอย่างงานวิจัยเช่น

    • การศึกษาที่เผยแพร่ในนิตยสาร Suouthern Medical Journal ตัวอย่าง 32 คน ซึ่งทานอาหารบางส่วนเป็น Raw Food 62% ของแคลอรี่ต่อวัน โดยมีอาหารบางอย่างที่ต้องปรุง และโดนความร้อนบ้าง  (ตามมาตรฐานแล้วควรทาน raw food 75-80% ของแคลอรี่ต่อวัน) เมื่อผ่านไป 7 เดือน น้ำหนักลดได้เฉลี่ย 4 กิโลกรัม
    • การศึกษาที่เผยแพร่ในนิตยสาร European Journal of Clinical Nutrition ตัวอย่าง 43 คน ที่ทาน Raw Food ใน 3 เดือน ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 9% ของน้ำหนักตั้งต้น
    • การศึกษาที่เผยแพร่ในนิตยสาร Archives of Internal Medicine ในปี 2005 ได้เปรียบเทียบระหว่าง 18 คน ที่ทาน Raw Food กับอีก 18 คนที่ทานแบบ American Diet
    • เมื่อผ่านไป 4 ปี วัด BMI พบว่า กลุ่ม raw food มี BMI ที่ลดลงมากกว่า กลุ่ม American Diet
    • การศึกษาที่เผยแพร่ในนิตยสาร Annals of Nutrition and Metabolism ตัวอย่าง 500 คน ที่ทาน raw food 90%ของแคลอรี่ต่อวัน มา 4 ปี พบว่าเปอร์เซ้นของน้ำหนักตัวที่ลดลงแปรผกผันตามปริมาณ raw food ที่เพิ่มขึ้น BMI ก็ต่ำกว่าค่าปกติด้วย แล้วก็พบว่าใน30% ของตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปี หมดประจำเดือน เพราะได้แคลอรี่ไม่เพียงพอ  ดังนั้นผู้วิจัยจึงแนะนำไม่ให้เคร่งครัดกับการทานraw foodมากเกินไปในระยะเวลานานๆ

.

อันตรายมั้ย

     ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานทานraw foodแบบเคร่งครัดมาก เพราะการได้แคลอรี่น้อยเกินไป ทำให้เสี่ยงต่อการที่อินซูลินไม่ทำงาน  แต่สำหรับคนทั่วไป ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ เช่น เสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ ท้องเสีย หรือพยาธิ แบคทีเรีย เชื้อโรค เพราะอาหารไม่ได้ผ่านความร้อน

.

ความยากในการปฏิบัติตาม

    • ต้องเป็นอาหารออแกนิค ซึ่งราคาสูงกว่า หายากกว่า มีให้เลือกประเภทน้อย ถ้าจิตใจไม่แข็งพอ ทำให้เบื่อง่าย
    • ผู้ที่ทานraw foodส่วนใหญ่มักขาด โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามิน เช่น วิตามินบี12  ดังนั้นอาจต้องทานอาหารเสริมเพิ่มเติม
    • อาหารที่ผ่านความร้อน ไม่ใช่ของเลวร้ายเสมอไป  บางอย่างเมื่อทำให้สุก ด้วยการใช้ความร้อน ยังสามารถเพิ่มเบต้า-แคโรทีน และไลโคปีน  ที่สำคัญคือ ความร้อนสามารถฆ่าแบคทีเรีย และเชื้อโรคได้
    • .

เพิ่มเติมจากแอดมิน

    • จากที่เคยลองสูตรนี้ เราจะได้รับแคลอรี่ที่น้อยมาก เพราะจะทานอะไรแต่ละที มันยุ่งยาก ของที่จะทานได้ก็มีให้เลือกไม่มาก
    • เคี้ยวแต่ละทีกว่าจะหมด เล่นเอาเหมื่อยปาก ท้องก็อิ่มผัก  ถ้าคนฟันไม่ดีอาจลำบากมาก คนที่กระเพาะย่อยอาหารยาก อาจทำให้ท้องอืด
    • ผักต้องมั่นใจว่าล้างสะอาดจริงๆ ถ้าไม่สะอาดหมดจดจริงๆ เราจะได้สารพิษที่มากกว่าคนทั่วไป เพราะอาหารหลักคือผัก
    • ที่ทรมานมากคือ แอดมินเป็นคนติดขนมมาก กินไม่เยอะก็ได้ แต่ขอให้ได้เข้าปากบ้าง แต่ทานแบบraw foodเหมือนจำศีล ต้องนั่งทำสมาธิ ไม่ให้จิตใจวอกแวกเลย  ที่สำคัญคือ ผักมันไม่ค่อยอยู่ท้อง หิวเร็ว  (นึกถึงมนุษย์หิน หรือ การใช้ชีวิตในป่าเลย)
    • คนที่ต้องออกกำลังกาย มันทำให้ไม่มีแรงยกเวท ไม่มีแรงออกกำลังกายมากเหมือนเดิม
    • แต่จะได้ในเรื่องของการขับถ่าย ที่ถ่ายได้ปริมาณมาก  และบ่อยกว่าปกติ
    • เรื่องของอาหารสุก กับอาหารดิบ  มีการถกเถียงกันมาก ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า สุกดีกว่า อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าดิบดีกว่า จริงๆแล้ว ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดี และข้อเสีย จงสร้างความสมดุล และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล  จะได้ไม่เครียดจนเกินไป  ถ้าสะดวกทำแบบไหนก็ทำ ถ้าไม่สะดวกก็อย่าไปฝืนมาก

.

ต้องออกกำลังกายมั้ย

     ในสูตรนี้ไม่ได้พูดถึงการออกกำลังกาย แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องออกกำลังกาย  เพราะไม่ว่าจะสูตรไหน การออกกำลังกายถือว่าเป็นประโยชน์  แต่การใช้สูตรนี้ จะได้แคลอรี่ที่น้อย ถ้าออกกำลังกายหนักๆอาจไม่ไหว ควรใช้วิธีเดินอย่างน้อย 30 นาที และมีการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อด้วย

.

อ้างอิงจาก  health.usnews.com

หมายเหตุ : เป็นการรวบรวมสูตรลดน้ำหนักต่างๆในต่างประเทศ ไม่ได้บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ  หรือดีหรือไม่ดีนะ  ควรใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการรับข้อมูล

กลับหน้าแรก ezygodiet.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.