ตอนเด็กๆ มักมีคำแก้ตัว หรือข้ออ้างอยู่เสมอที่ไม่ทำการบ้าน
พอตอนทำงาน ก็มักมีคำแก้ตัวเสมอ เมื่องานไม่เสร็จตามกำหนด
หรือการเบี้ยวนัด ที่ไม่อยากไป ก็มักมีข้ออ้างโดยไม่เคยพูดตามตรงไปเลย
หรืออาจเป็นการปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจ ใดๆก็ตาม
แต่สำหรับการลดน้ำหนักของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างเพื่อรักษาน้ำใจ
ไม่ต้องหาเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองเลย เพราะคนที่เสียก็คือตัวเราเอง
กินขนมรู้สึกดีแค่นาที แต่หุ่นดีรู้สึกดีตลอดชีวิต
.
ลองสำรวจตัวเองว่าเคยหาข้ออ้างให้มีความชอบธรรมในการกินหรือไม่
ข้ออ้างด้านสุขภาพ
ฉันเป็นโรคกระเพาะ ต้องกินเยอะๆ
เลือกกินปลาเพื่อสุขภาพ แต่ดันไปกินปลาทอด
.
ข้ออ้างในการล้มเลิก
ฉันอ้วนตั้งแต่เด็ก ครอบครัว พี่น้องก็อ้วนกันหมด ฉันเลยอ้วน ไม่มีวันผอมได้หรอก
วันๆแทบไม่ได้กินอะไรเลย ขอกินหน่อยเหอะ
.
ข้ออ้างด้วยการโทษคนอื่น
สามีฉันชอบที่ฉันมีเนื้อมีหนังมากกว่า
ครอบครัวไม่อยากให้ลดน้ำหนัก
.
ข้ออ้างก่อนนอน
ฉันต้องกินก่อนนอนจะได้นอนหลับสบาย
ฉันชอบหิวกลางดึก เลยต้องกินตุนไว้ก่อน
.
ข้ออ้างจากเทศกาล
วันเกิดต้องตามใจตัวเอง
วันศุกร์ ต้องกินให้หายเหนื่อยกันหน่อย
ก่อนวันกินเจ ต้องตุนพลังงานเอาไว้
ก่อนวันเข้าพรรษา ต้องล้างปากซะหน่อย
.
ข้ออ้างโดยโทษเคราะห์กรรม
ฉันเป็นคนโครงร่างใหญ่ ลดยังไงก็ไม่ลงหรอก
ฉันเป็นคนระบบเผาผลาญไม่ดี กินน้อยยังไงก็อ้วน งั้นกินเยอะๆดีกว่า
.
ส่วนตัวดิฉันเองมีข้ออ้างที่ใช้เสมอคือ เมื่อเช้าก็ไปออกกำลังกายมาแล้ว
กินขนมปังซักก้อน ขนมเปี๊ยะซํกชิ้น นมซักกล่อง ก็ไม่เห็นเป็นไร
แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่ใช่แค่นั้น มักจะลามปามไปขนมอย่างอื่นๆอีกมากมาย
.
ถ้าคุณตามความรู้สึกตัวเองได้ แล้วจัดการมันให้ถูกจุด
ตัดข้ออ้างที่ไร้สาระทิ้งไป แล้วสร้างกำลังใจลดน้ำหนักให้ตัวเองซะ
เขียนโดย ezygodiet.com
หากคิดว่าบทความนี้พอมีประโยชน์บ้าง
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น
แบ่งปันให้เพื่อนๆ มีสุขภาพดีๆ กันถ้วนหน้าด้วยนะคะ