เมื่อนึกถึงคำว่า “สมาธิ”
ก็จะนึกถึงการนั่งที่ฝึกฝนจิตใจให้เกิดความสงบ เกิดการผ่อนคลาย
การมีสติ รับรู้ ปลอดโปร่ง ช่วยลดความเครียด ซึ่งประโยชน์ของการฝึกสมาธินั้นมีมากมาย
การกินก็เช่นกัน หากเราสามารถฝึกสมาธิในการกิน
ก็จะช่วยให้เรามีสติ รับรู้ถึงความต้องการของร่างกายและจิตใจ
ทำไมยิ่งเครียด ยิ่งกิน ยิ่งอ้วน
——————————————————————————————-
.
วิธีฝึกสมาธิระหว่างกินช่วยลดความอ้วน
.
ฝึกผ่อนคลายอารมณ์ก่อนกิน
ก่อนจะกินอาหารในแต่ละครั้งควรฝึกจิตใจ
ให้ผ่อนคลายจากอารมณ์ต่างๆ เช่น อารมณ์โกรธ อารมณ์หิว
อารมณ์ดีใจ อารมณ์เสียใจ เนื่องจากอารมณ์จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ
ทำให้พฤติกรรมการกิน แตกต่างจากอารมณ์ปกติ
จากนั้นถามตัวเองว่า มื้อนี้มีความหิวมากน้อยระดับไหน
และร่างกายต้องการอาหารมากน้อยแค่ไหน
เพื่อที่จะได้เลือกซื้ออาหาร หรือตักอาหาร ได้พอดีกับความหิวของร่างกาย
และความอยากของจิตใจ อย่าฝืนกับความต้องการของร่างกายและจิตใจ
เช่น หากต้องการกินขนมหวาน ก็สามารถกินได้ แต่รับรู้ถึงปริมาณที่กินเข้าไป
การฝึกถามร่างกาย และจิตใจ จะทำให้แยกได้
ระหว่างความหิวของร่างกาย และความอยากอาหารของจิตใจ
และจะช่วยลดการกินอาหารที่มาจากความอยากลงได้
ช่วยให้การลดน้ำหนักสำเร็จง่ายขึ้นด้วย
——————————————————————————————-
ตักอาหารทีละน้อยๆ ก่อนเข้าปาก
อาจใช้ช้อนส้อมที่มีขนาดเล็ก หรือใช้ตะเกียบ
การใช้อุปกรณ์การกินที่มีขนาดเล็ก จะช่วยให้เราสามารถฝึก
ให้ร่างกายได้รับอาหารที่ช้าลง และปริมาณที่น้อยลงกว่าอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่
——————————————————————————————-
.
ฝึกวิเคราะห์ส่วนประกอบของอาหารที่กำลังจะกินเข้าไป
ฝึกดูว่า อาหารนั้นทำมาจากอะไรบ้าง เช่น เนื้อสัตว์ชนิดไหน ผัก แป้ง น้ำมันแบบไหน
มีการใส่เครื่องปรุงรสอะไรบ้าง มีวิธีการปรุงประกอบอย่างไร
เพื่อที่เราจะได้รับรู้ และเรียนรู้ถึงประเภทของอาหารที่เรากินเข้าไป
บางครั้งจะได้รับรู้ว่า เรารับประทานอาหารชนิดนี้บ่อยครั้งแค่ไหน
อาจช่วยให้เรารู้ว่า อาหารชนิดไหนที่กินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
เพื่อที่จะได้เพิ่มเติมอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้มากขึ้น
และลดปริมาณ อาหารที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายให้น้อยลง
——————————————————————————————-
.
ฝึกกินอาหารให้ช้า เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
นักวิจัยได้ทำการศึกษา เกี่ยวกับอัตราเร็วในการเคี้ยวและการกลืน
พบว่า ผู้ที่เคี้ยวเร็ว และกลืนเร็ว จะไม่ค่อยได้รับรู้ถึงชนิด และปริมาณอาหารที่ได้กินเข้าไป
โดยจะส่งผลทำให้ได้รับปริมาณ และสารอาหารมากเกินกว่าที่ตนเองต้องการ
แม้ว่าในบางครั้งอาหารที่กินเข้าไป จะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
แต่หากกินมากเกินไปก็จะทำให้ร่างกาย ได้รับพลังงานสูงเกิน
และส่งผลให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
โดยในแต่ละคำควรจะเคี้ยวอาหารประมาณ 15-25 ครั้งก่อนที่จะกินคำใหม่
——————————————————————————————-
.
ฝึกการรับรู้ถึงรสชาติของอาหาร
ทุกครั้งที่อาหารเข้าปาก ลองฝึกการรับรู้ถึงรสชาติอาหาร
เพื่อช่วยให้สมอง และร่างกาย ได้วิเคราะห์ดูว่า ชอบหรือไม่ชอบรสชาติอาหารนี้
การฝึกรับรู้ถึงรสชาติอาหาร จะทำให้เราได้รู้ว่า
เรามีนิสัยการบริโภครสชาติอาหารแบบไหนเป็นประจำ
เช่น รสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว รสเผ็ดร้อน หรืออาหารทอดน้ำมัน อาหารแกงกะทิ
เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในทางที่ไม่ดี
เช่นอาหารหวานจัด อาหารเค็มจัด อาหารมันจัดเป็นต้น
——————————————————————————————-
ฝึกวางช้อนส้อม หรืออุปกรณ์การกินลง ในแต่ละคำของการกิน
เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย และรับรู้ว่า
ร่างกายต้องการกินอาหารเพิ่มเติมหรือไม่ หรือว่าเพียงพอแล้ว
——————————————————————————————-
.
นั่งกินอาหารในที่สงบและไกลจากสิ่งรบกวนต่างๆ
เช่นการคุยกับเพื่อน คุยโทรศัพท์มือถือ การดูทีวี การฟังวิทยุ
การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์
เพื่อที่จะใส่ใจต่ออาหารที่วางอยู่ตรงหน้า
และวิเคราะห์ถึงคุณค่าและพลังงาน ที่จะได้รับจากอาหารที่กินเข้าไป
——————————————————————————————-
.
ควรนั่งพักสัก 3-5 นาที หลังจากกินอาหารเสร็จ
ฝึกขอบคุณร่างกาย ที่ช่วยย่อยอาหาร
และนำสารอาหารไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย
ขอบคุณจิตใจ ที่ทำให้เกิดความสุขในการกินครั้งนี้
การนั่งพักนี้ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
และสมองรวมถึงจิตใจ พร้อมที่จะมีแรงทำงานอย่างอื่นต่อไป
ปัจจัยที่ทำให้กินเยอะขึ้นโดยไม่รู้ตัว
——————————————————————————————-
การฝึกสมาธิอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องการการฝึกฝน เหมือนการฝึกนั่งสมาธิ หรือการฝึกโยคะ
หากฝึกเป็นประจำ ก็จะช่วยให้การกินมีสมาธิมากขึ้น และมีวินัยในการกินมากขึ้น
การฝึกการกินนี้จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดความอ้วน ลดพุง
และยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดีอีกด้วย
——————————————————————————————-
ข้อมูลจาก ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล
อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เวปเครือข่ายคนไทยไร้พุง
กลับหน้าแรก ezygodiet.com
หากคิดว่าบทความนี้พอมีประโยชน์บ้าง
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น
แบ่งปันให้เพื่อนๆ มีสุขภาพดีๆ กันถ้วนหน้าด้วยนะคะ