น้ำมันมะพร้าว ใช้กิน-ใช้ทาในขวดเดียวกัน

ช่วงนี้เริ่มมีกระแสน้ำมันมะพร้าวมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อน

เราถูกปลูกฝังว่า ไม่ควรกินน้ำมันมะพร้าว ไม่ควรกินกะทิ

เพราะมีไขมันอิ่มตัวสูง แต่เมื่อได้ลองศึกษาด้วยเหตุและผลแล้ว

ก็น่าลอง นึกๆดูแล้วสมัยก่อน เห็นคุณย่านั่งเคี่ยวน้ำมันมะพร้าว เพราะที่บ้านปลูกมะพร้าวไว้ 1ต้น

ท่านจะนำเนื้อมะพร้าวแก่ๆ มาตั้งเตาถ่าน นั่งเคี่ยวอยู่ตั้งนาน

ก็เห็นเป็นน้ำมัน แล้วก็กรอกใส่ขวดเอ็มร้อย เก็บไว้ใช้ทาผิว ทาหน้า ทาตัว

เหลือมากหน่อยก็เอาไปทำกับข้าวกิน ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีอันตราย

.

ทางเวปของเมเนเจอออนไลน์ บทความของ อ.ปานเทพ บอกว่าสาเหตุที่ทำให้คนไทย

กลัวน้ำมันมะพร้าว เพราะว่า ประเทศทางแถบยุโรป อเมริกา ต้องเสียดุลการค้า

มาซื้อน้ำมันมะพร้าวจากเอเซียเยอะมาก เลยโจมตีน้ำมันมะพร้าวซะเลย

ว่าเป็นไขมันอิ่มตัวจะเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ไขมันอุดตัน

.

แต่ดิฉันยังไม่ได้เชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่ชัด จะทดลองกับตัวเองก่อน

ในด้านการนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้ทำกับข้า่ว จากที่เขาให้กินวันละหลายๆช้อนโต๊ะต่อวัน

ก็ยังไม่กล้าถึงขนาดนั้น แค่ใช้ทำกับข้าววันละ 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น

เพราะถึงยังไง น้ำมันไม่ว่าจะชนิดไหนก็มีแคลอรี่เท่ากันหมด

คือ 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ 120 แคลอรี่ ถ้ากินวันละ 5-7 ช้อนโต๊ะ

ก็จะได้แคอลอรี่ 600 – 840 แคลอรี่ เพิ่มขึ้นจากเดิม

ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรมาก รู้แต่ว่ากับข้าวมันหอม อร่อยขึ้นมากเลย

.

ส่วนในด้านการทาผิว อันนี้ชอบมาก เพราะช่วงนี้หน้าหนาว เวลาทาแล้ว

มันจะรู้สึกร้อนๆ อุ่นๆ ผิวชุ่มชื่นดี เพราะทาครีมธรรมดาแล้วเอาไม่อยู่ ผิวแตกเกลี้ยง

กะว่าถ้าไปเที่ยวต่างประเทศช่วงหนาวๆ ต้องพกน้ำมันมะพร้าวไปด้วย

.

มีอยู่ช่วงนึงอากาศหนาวมาก น้ำมันมะพร้าวแข็ง ไม่รู้ทำยังไง เลยเอาไดรเป่าผมมาเป่า

แป๊บเดียวมันก็ละลาย  แต่คิดไปคิดมาไม่ควรทำเล้ย เพราะขวดที่ทำด้วยพลาสติก

มันอาจละลายได้ เลยไม่กล้านำมากินอีกเลย ใช้ทาอย่างเดียว

แล้วเทใส่กระปุกครีมปากกว้างไว้จะได้ใช้ง่ายๆ เวลามันแข็งตัวจะเหมือนครีม หรือเนย

.

กลับหน้าแรก ezygodiet.com