นิสัยที่ทำให้อ้วนขึ้น
บางคนที่ไม่ได้อ้วนมาตั้งแต่เด็ก แม้แต่ตอนวัยรุ่นก็ดูผอมก้าง แต่พอเข้าสู่วัยทำงาน กลับอ้วนขึ้นจนเพื่อนแทบจะจำกันไม่ได้ เพราะวิถีชิวิตประจำวันที่ทำซ้ำๆกัน จนติดเป็นนิสัย เราลองมาดูกันว่า นิสัยที่ทำให้อ้วนขึ้น แบบไหนบ้าง ที่เรากำลังเป็นอยู่
.
1. ไม่เคยรู้แคลอรี่ในอาหารที่ทาน
อาจไม่จำเป็นถึงขั้นนับแคลอรี่ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ควรจะรู้คร่าวๆได้ว่า อาหารที่เรากำลังทาน รวมแล้วประมาณกี่แคลอรี่ และไม่ใช่ประมาณแบบนั่งเทียนนึกขึ้นมาเองนะ ต้องพอรู้บ้าง หรือต้องอ่านฉลากเป็นด้วย
ดูปริมาณแคลอรี่ในอาหาร , ดูฉลากข้อมูลโภชนาการ
.
2. ทานอาหารพูนจาน
หลายคนชินกับการทานอาหารที่อัดแน่น พูนๆ เต็มๆ เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าไม่พูน เดี๋ยวจะไม่อิ่ม แต่พอลงมือทานอาจจะอิ่มตั้งแต่ครึ่งจานแล้ว แต่ก็ต้องทานให้หมดจาน เพราะเสียดาย ลองเปลี่ยนให้จานเล็กลง หรือตักแค่พออยู่ท้อง ไม่ต้องทานจนแน่นท้อง
.
3. ไม่จดรายการซื้อของ
ในร้านค้า ซุปเปอร์ต่างๆ มักมีของยั่วยวนน้ำลายวางเรียงรายเต็มไปหมด ถ้าเราไม่รู้จักจดสิ่งที่ต้องการจริงๆ พอถึงบ้านกลับได้แต่ขนม และอาหารขยะ แต่อาหารที่ต้องการจริงๆกลับลืมซื้อซะนี่
.
4. ไม่วางแผนการกิน
ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หรือเรื่องจุกจิก ที่จะวางแผนซักหน่อยว่า วันนี้จะทานอะไรบ้าง ตอนไหนบ้าง อาจทำให้ประหยัดเวลา และควบคุมแคลอรี่ได้โดยไม่ต้องทนหิวเลย เช่น ถ้าต้องทาน 3 มื้อหลัก และ 2 มื้อว่าง ต้มไข่ ล้างผัก ปอกผลไม้ นึ่งไก่ เตรียมไว้เป็นชุดๆ ถึงเวลาก็แค่หยิบมาทานได้ทันที
.
5. ทานอาหารนอกบ้านบ่อย
เป็นไปไม่ได้เลย ที่การไปทานที่ร้านอาหารแล้วเราจะไม่ทานเยอะ แม้จะเป็นการซื้อกลับมาทานที่บ้านก็ตาม ก็ยังมีโอกาสทานเยอะกว่าการทำอาหารเองอยู่ดี
.
6. ทานอาหารเพื่อฆ่าเวลา
การทานอาหารร่วมกับการทำกิจกรรมอื่นๆร่วมไปด้วย มีโอกาสสูงที่จะทำให้ทานได้เยอะขึ้น เช่น กินไปดูทีวีไป กินไปคุยไป กินไปกดมือถือไป ลองปิดทุกอย่าง จดจ่อกับอาหาร แบบนี้ถึงจะเรียกว่า enjoy eating ของจริง ที่ได้ทั้งรสชาติ และอารมณ์ของการกินที่แท้จริง
.
7. ไม่ชั่งน้ำหนักเป็นประจำ
คำว่าเป็นประจำ ไม่ใช่ต้องชั่งทุกวัน แต่ควรตั้งไว้ว่าจะชั่งทุกๆวันไหน หรือชั่งเดือนละครั้ง เช่น ชั่งทุกวันอาทิตย์ ตอนตื่นนอน เป็นต้น
.
8. ชอบแชร์รูปอาหาร
ภาพอาหารเป็นสิ่งกระตุ้นน้ำลายอย่างแรง ทั้งๆที่เราเพิ่งทานอิ่มๆ แต่พอเห็นรูปอาหารหน้าตาหน้าทาน แม้ไม่ได้กลิ่น ก็ทำให้บันทึกไว้ในสมองแล้วว่า “อยากกินจัง”
.
9. ทานเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่
อาหารที่ต้องเคี้ยว ยังไงซะมันก็ยังอยู่ในปากเราได้นาน แต่เครื่องดื่มมันผ่านลิ้นเราไปยังไม่ถึง 2 วินาที แต่เรากลับได้แคลอรี่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ที่เราอยากดื่มเครื่องดื่ม ก็เพราะเรารู้สึกกระหายน้ำ ไม่ใช่เพราะเราหิว ดังนั้น ดื่มน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่จะดีกว่า
.
10. หิวตอนกลางคืน
มื้อสุดท้ายที่ทานคือเวลาไหน นอนกี่โมง ตื่นกี่โมง ทานวันนึงกี่ครั้ง ถ้าทานครั้งล่าสุดตอน 6 โมงเย็น ดังนั้นถ้านอนดึก 4-5 ทุ่มก็ควรต้องหิวเป็นเรื่องปกติ ถ้าทั้งวันแทบจะไม่ได้ทานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย กลางคืนก็มีโอกาสหิวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น หิวตอนกลางคืนไม่ใช่ความผิดปกติ แต่เป็นความผิดพลาดของระหว่างวัน ที่ไม่มีการวางแผนการทาน และนอนไม่เป็นเวลา
.
11. กลัวแป้งเกิดเหตุ
บางคนแทบจะไม่ยอมทานข้าวเลย แม้กระทั่งพืชรากอย่าง หัวเผือก หัวมัน ก็กลัวไปด้วย ทางที่ดีคือ ทานแป้งได้ แต่ควรเป็นแป้งที่มีไฟเบอร์ เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช
.
12. ติดเพอร์เฟ็คท์
ไม่จำเป็นต้องทานแบบเพอร์เฟ็คจนแทบจะเป็นโรคประสาท ถ้าความเคร่งครัดเกินเหตุ ทำให้เรารู้สึกเคร่งเครียด มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเราจะทำได้ไม่นาน หย่อนบ้าง หลุดบ้าง ไม่เกิน30% ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
.
13. เข้าผิดกลุ่ม
เมื่อเราใช้เวลาอยู่กับใครนานๆ เราจะกลายเป็นมีนิสัยคล้ายๆกันไปโดยอัตโนมัติ กลุ่มที่ชวนกันกินก็พาเรากินไปด้วย กลุ่มที่ชวนกันออกกำลังกาย ก็ทำให้เราอยากออกกำลังกายไปด้วย ฉะนั้น เลือกกลุ่มให้ดี
.
14. กินเพราะอารมณ์
บางเราเราก็กินเพราะเครียด กินเพราะไม่มีอะไรทำ เหงา เศร้า เบื่อ ทั้งๆที่ท้องไม่ได้รู้สึกหิว จงเตรียมพร้อมรับมือด้วยการเตรียมอาหารที่แคลอรี่น้อยๆ แต่กินแล้วอิ่ม ไว้ใกล้ๆให้หยิบง่ายๆ เช่น ผลไม้
.
15. ติดหวาน มัน เค็ม
ของหวานๆ ของมันๆ ของเค็มๆ รสจัดจ้าน แน่นอนว่ามันทำให้รู้สึกอร่อยขึ้น แต่กลายเป็นว่าเราติดรสชาติแบบนี้ซะจนแยกไม่ออกแล้ว ว่ารสชาติปกติของอาหารจริงๆเป็นอย่างไร ถ้าไม่ปรุงก็กินไม่ลง เหมือนคนติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดยา ที่ถ้าไม่ได้กิน ไม่ได้เสพ จะเกิดอาการอยาก อาจยังไม่ต้องเลิกในทันที แต่ให้ค่อยๆลดปริมาณลง
.
16. ไม่รู้จักอาหารสุขภาพ
บางคนรู้แค่ว่า อาหารสุขภาพ ก็คือสลัด จะเติมอะไรลงไปก็ได้ แต่จริงๆแล้ว อาหารสุขภาพก็คืออาหารทั่วไป ที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่แปรรูป ใกล้เคียงกับที่ธรรมชาติให้มากที่สุด ครบ 5 หมู่ และในปริมาณที่เหมาะสมด้วย
.
17. อดหลับอดนอน
บางคนคิดว่าการอดหลับอดนอน ทำงานทั้งวัน ทั้งคืน จะทำให้ร่างกายซูบผอม ลดน้ำหนักได้ แต่ผลกลับตรงกันข้าม การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา มักทำให้หิว และกินโดยไม่มีสติ
.
18. ไม่ยอมออกกำลังกาย
คำว่าไม่มีเวลา คงไม่ใช่เหตุผลลึกๆ แต่คำว่า ขี้เกียจ น่าจะเป็นสาเหตุที่แท้จริง การเพิ่มการขยับร่างกายเล็กๆน้อยๆ ระหว่างวันถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และขยับขยายเป็นวันละ 30 นาที ก็เป็นเรื่องไม่ยาก ออกกำลังกายระหว่างดูทีวี คุยโทรศัพท์ เดินแทนนั่งรถ ทำชีวิตให้แอคทีพ เวลาไม่มีคงไม่ใช่ปัญหาแล้ว
.
โดย ezygodiet.com