ข้อผิดพลาด ของคนอยากผอม
ใครที่กำลังเเริ่มลดน้ำหนักอยู่ ลองมาสำรวจกันหน่อยมั้ยว่ากำลังมี ข้อผิดพลาด ตรงไหนกันบ้าง แล้วจะลดข้อผิดพลาดนั้นได้ยังไงบ้าง
.
1. ใจร้อน
ความใจร้อนเป็นข้อผิดพลาดอันดับต้นๆ ของคนที่กำลังลดน้ำหนักเลยก็ว่าได้ เพราะมักจะคาดหวังผลลัพธ์ที่เว่อร์ๆ เพราะพอเห็นคนอื่นในโฆษณาต่างๆ รีวิวต่างๆ เขาลดได้กันเร็วๆ เยอะๆ ก็เริ่มอิจฉาตาร้อน
.
จำไว้ว่า ไขมันไม่มีทางหายไปได้ในเร็ววัน เพราะไขมันเป็นลำดับท้ายๆที่จะเอาออกมาใช้ ถ้าเราลดน้ำหนักแบบถูกหลักการจริงๆ ไขมันก็จะค่อยๆหายไปเองแบบที่เราไมรู้ตัวเลย
.
แต่กล้ามเนื้อ กับน้ำในร่างกายเป็นส่วนที่หายไปได้เร็วมาก ถ้าอยากน้ำหนักลดเร็วๆ แล้วไม่สนว่าจะเป็นน้ำหนักของอะไร ก็เชิญตามสบายเลย คุณเลือกเอง
.
2. ชอบเปรียบเทียบ
เคยได้ยินใช่มั้ยว่าบางคนสัปดาห์แรก น้ำหนักก็ลดฮวบ 3-4 กก. แล้ว แต่พอเราทำมั่งไม่เห็นจะลดได้เยอะแบบเขาเลย
.
จะไปสนใจอะไรกับตัวเลขที่คนอื่นเขามองไม่เห็น ขยันเลือกอาหาร หมั่นออกกำลังกาย ทำจิตใจให้สงบ เข้มแข็ง ตัดความกังวล ความเครียด ความไม่แน่ใจออกไป นอนให้มาก โฟกัสที่สุขภาพ
.
ประโยชน์ที่ได้มันคือชีวิตชีวาที่หาซื้อไม่ได้ แถมได้ตลอดชีวิต ดีกว่ามัวแต่เพ่งเล็งตัวเลขบนเครื่องชั่งที่ลดลงเร็วๆตั้งเยอะ
.
3. นึกว่าลดเท่าๆกันทุกสัปดาห์
หลายคนที่น้ำหนักลดลงตั้งแต่สัปดาห์แรก ก็หวังว่าสัปดาห์ต่อๆไปก็จะลดแบบนี้อีก อย่างเช่น สัปดาห์แรกลดน้ำหนักได้ 3 กก. ดีใจแล้วจินตนาการต่อว่า ถ้าสัปดาห์นี้ลด 3 กก. 4 สัปดาห์ ก็ต้องลดได้ 12 กก.
.
ร่างกายของคนเรามันซับซ้อนมากนะ มันยากที่จะคาดเดาได้ ไม่มีทางที่จะไปเทียบบัญญัติไตรยางค์กับร่างกายได้หรอก
.
ชั่งน้ำหนักเป็นการติดตามผลเท่านั้น ไม่ใช่การวัดผลสำเร็จ จะชั่งน้ำหนักทุกๆวัน ทุกๆสัปดาห์ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าไปจริงจังกับตัวเลขมาก ควรติดตามเป็นรายเดือนจะดีกว่า
.
4. นึกว่าทำปุ๊บจะลดปั๊บ
เป็นกันแทบทุกคนแหละ ที่พอออกกำลังกายเสร็จปุ๊บ ชั่งน้ำหนังปั๊บเลย บางคนอบซาวน่าเสร็จ น้ำหนักหายไป 2 กก. ดีใจใหญ่ นับถือห้องซาวน่ามาก ยกให้เป็นวิธีลดน้ำหนักชั้นเลิศ เลยไม่ยอมออกกำลังกาย ไม่ควบคุมอาหารเลย จะไปดีใจทำไม ก็น้ำหนักที่ลดไปมันยังไม่ใช่ไขมัน
.
อย่างที่บอกว่าร่างกายเรามันซับซ้อน ระหว่างวัน ระหว่างสัปดาห์ น้ำหนักก็มีการขึ้นๆลงๆเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงจะบอกว่าออกกำลังกายช่วยเผาผลาญไขมัน แต่มันก็ไม่ได้หายไปไวขนาดนั้น
.
หรือหลายคนที่วันนี้รู้สึกว่าตัวเองควบคุมอาหารมาซะอย่างดี ตื่นเช้ามาชั่งน้ำหนักแล้ว หรือชั่งมันแทบทุกวัน ทุกเวลาที่ว่าง แต่พอช่วงไหนหลุดปุ๊บ กลับไม่กล้าชั่ง
.
ดังนั้น ต่อให้วันนั้นทำดีมากแค่ไหน น้ำหนักอาจลดลง หรือไม่ลดลง มันก็ยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แท้จริงอยู่ดี มันต้องวัดกันระยะยาว อย่าลืมว่าเราต้องการลดไขมันนะ ไม่ใช่ลดอะไรก็ได้ที่มันทำให้เราหนัก
.
5. วาดฝันความเพอร์เฟ็กต์
เคยเป็นมั้ยล่ะ “ต่อไปนี้ฉันจะไม่กินขนม” “ต่อไปนี้ฉันจะออกกำลังกายทุกวัน” แล้วเอาเข้าจริงมันเป็นยังไง พอหลุด พอไม่เป็นไม่ตามที่คิด ก็ประชดชีวิตด้วยการล้มเลิก
.
จงจำไว้เลยว่า ไม่มีมนุษย์เพอร์เฟ็กต์บนโลกนี้ ดังนั้นเราต้องวางแผนให้มีมื้อหลุด มื้อตามใจปาก (พอประมาณและเหมาะสม)
.
คิดแผนในแบบที่เราจะสามารถทำได้ในระยะยาว ต่อให้หลุดแผนก็แค่ทำต่อไป พรุ่งนี้ยังมีโอกาส มื้อหน้าก็ยังมี จะไปล้มเลิกทำไม เลิกคือโอกาสสำเร็จเป็นศูนย์นะ แต่ถึงจะหลุดบ้าง ฮึดบ้าง ก็ยังมีโอกาสมากกว่าครึ่งที่จะประสบความสำเร็จนะคะ
.
6. คิดว่าต้องกินให้น้อยเข้าไว้
ข้อผิดพลาด ที่แทบจะทุกคนเป็นกันก็คือ นึกว่าต้องพยายามกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดี๋ยวน้ำหนักก็ลดแน่ๆ แล้วก็ลดได้เร็วด้วย แต่นั่นเป็นแค่ภาพลวงตา หลอกให้เราดีใจช่วงแรกๆ
.
รู้มั้ยว่าเมื่อร่างกายไม่ได้สารอาหารที่พอเพียง ระบบเผาผลาญก็จะช้าลงตามด้วย ที่เราเรียกว่า โหมดประหยัดพลังงาน มันจะพยายามปิดระบบที่ไม่จำเป็น
.
เหมือนโรงงานที่กำลังจะเจ๊ง เริ่มเบี้ยวค่าแรง เริ่มลดสวัสดิการ แล้วคนงานจะอยากทำงานให้เหมือนเดิมหรอ
.
แต่ก็อย่าลืมนะว่ากินน้อยจนเรียกว่าอดอาหารก็ไม่ดี กินมากจนเรียกว่าจอมเขมือบก็ไม่ได้นะ
.
หวังว่า ข้อผิดพลาด ที่มักเป็นกันเหล่านี้ จะช่วยลดข้อผิดพลาดให้คนที่กำลังลดน้ำหนักได้บ้างนะคะ สู้ต่อไปนะ รู้ว่าเส้นทางนี้มันไม่ง่ายและต้องอาศัยเวลา แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของทุกคน
โดย ezygodiet.com