ล้มเลิกง่ายเพราะ ต้องการความเพอร์เฟ็ค
ไม่มีใครหรอกที่จะกินอาหารสุขภาพได้ทุกวัน ไม่เคยหลุดกินขนมแม้แต่ชิ้นเดียวในรอบ 3 วัน คนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นมนุษย์เพอร์เฟ็ค ไม่ใช่มนุษย์ที่ตัดกิเลศได้หมด ไม่อยากอะไรทั้งสิ้น หรือไม่เคยลืมออกกำลังกาย ไม่เคยขี้เกียจที่จะออกกำลังกาย ทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมดนั่นแหละ มีเพื่อน มีสังคม อยากกินนู่น อยากกินนี่ มีขี้เกียจออกกำลังกาย มีป่วย มีออกนอกลู่นอกทาง บางคนกินช็อคโกแลตแท่งทุกวัน ขอกินเค้กทุกวัน แต่ก็ยังสามารถลดน้ำหนัก หุ่นดีได้
การกินขนมเรียกว่าหลุดโปรแกรมได้หรอ ถ้าเราตั้งไว้ว่าจะกินขนมไม่เกินเท่าไหร่ แคลอรี่รวมก็ไม่เกินงบ ต่อให้กินเกินก็ออกกำลังกายเพิ่ม แบบนี้จะถือว่าลดน้ำหนักไม่สำเร็จหรือเปล่า แบบนี้เรียกว่า “ควบคุมได้” ต่างหาก ไม่ใช่หลุดโปรแกรม
แต่การหลุดโปรแกรมลดน้ำหนัก ก็คือ รู้ว่าตัวเองไม่ควรกินเกินกี่แคลอรี่ต่อวัน แต่ก็กินเกินมากในแบบไม่น่าเชื่อ (เกินนิดหน่อยไม่เป็นไร) การตั้งใจไว้แล้วว่าจะกินขนมเท่านี้ แต่ก็กินมากกว่าที่ตั้งไว้มาก การควบคุมตัวเองไม่ได้ หักห้ามใจไม่อยู่ ไม่มีวินัย แบบนี้ถึงเรียกว่า “หลุดโปรแกรม”
แต่บางคนคิดว่า คนที่เขาผอมได้ ลดน้ำหนักได้ ต้อง “เป๊ะ” ทุกอย่าง กินผัก ผลไม้ ไม่กินหวาน ไม่กินมัน ออกกำลังกายหนัก เลิกจุบจิบ แล้วก็ทำตามแบบที่ตัวเอง “มโน” คิดเอง เออเอง พอทำไม่ได้ ก็หาว่าตัวเองคงทำไม่ได้ ตัวเองเป็นโรคกระเพาะ ตัวเองงานยุ่ง ตัวเองโครงร่างใหญ่ ตัวเองทำงานที่ต้องใช้แรงเยอะ ตัวเองมีงานเลี้ยงเยอะ ตัวเองติดขนม เลิกไม่ได้ ฯลฯ สุดท้ายก็ล้มเลิก กลับมากินมากกว่าเดิม
การลดน้ำหนักต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ไม่ว่าคุณจะน้ำหนักเกินแค่ 1 กิโลกรัม ก็ตาม เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมในระยะยาว คุณจะเพอร์เฟ็คได้ตั้ง 3 เดือนเลยหรือ ดังนั้น ตัดคำว่าเพอร์เฟ็คออกไปก่อน ไม่มีทางที่ใครจะเพอร์เฟ็คได้ ในเมื่อเพอร์เฟ็คไม่ได้ แต่เราสามารถทำในสิ่งที่เรียกว่า “ดีกว่าเดิม” ได้
เช่น ปกติกินข้าว 3 ทัพพี ก็ลดเหลือ 2 ทัพพี ปกติกินเครื่องดื่มรสหวานวันละ 1 แก้ว ก็ลดเหลือครึ่งแก้ว อะไรก็ได้ที่ตัวเราเองคิดว่า เราสามารถทำได้ โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ อะไรก็ได้ที่รู้สึกว่า ได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีกว่าเดิม แม้เล็กน้อยก็ถือว่าใช้ได้แล้ว แล้วก็ทำให้ดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่นี้ คุณจะลดน้ำหนักได้อย่างถาวร ไม่กลับมาอ้วนอีกแน่นอน
คนที่รูปร่างดีๆ ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่กินขนมเลย ไม่กินของอ้วนๆเลย หลายคนกินทุกวันเลยด้วยซ้ำ แต่เขามีวิธีชดเชย เช่นการออกกำลังกายมากกว่าปกติ ถ้าปกติออกกำลังกาย 30 นาที ก็ต้องชดเชยเพิ่มอีก 30 นาที เป็น 1 ชม. แต่ถ้าของที่หลุดกินมันมากกว่าแคลอรี่ที่ออกกำลังกายแค่ 30 นาทีก็ชดใช้ไม่หมด ก็แค่ไปชดใช้วันถัดไป ถ้าวันถัดไปยังไม่หมดอีกก็ชดใช้วันถัดไปอีก แต่ระวังอย่าไปก่อหนี้เพิ่มอีกละกัน หรือการใช้หนี้โดยการอดกินของวันอื่นๆ เช่น ตั้งงบกินช็อคโกแลตวันละ 1 แท่ง แต่วันนี้ อยากกินไอศครีมเพิ่มอีก 1 โคน ก็ต้องโดนตัดงบช็อคโกแลตของวันอื่นๆ งดกินช็อคโกแลตของวันพรุ่งนี้ และมะรืนนี้ออกไป
สรุป ไม่มีมนุษย์เพอร์เฟ็คบนโลกใบนี้ ลดน้ำหนักไม่ต้องทำตัวเพอร์เฟ็ค แต่ทำให้ดีกว่าเดิม รู้จักชดเชย รู้จักปรับปรุง และไม่ล้มเลิก