NCDs Reality ตอนที่6 : กรรมติดปลายช้อน
ครั้งที่แล้ว NCDs Reality ตอนที่5 ได้วางแผนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกันไปแล้ว มาครั้งนี้ลองมาดูกรรมของอาสาสมัครทั้ง6 ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพวกเขาเอง หรือเรียกว่า ” กรรมติดปลายช้อน ” คือการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้กลายเป็นกรรมสะสมในรูปของไขมัน นำไปสู่กลุ่มโรค NCDs โดยไม่รู้ตัว อาหารของแต่ละคนจะก่อกรรมอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ
.
สรุป NCDs Reality ตอนที่6 : กรรมติดปลายช้อน
(ถอดความให้สำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูคลิป 50 นาที หรือดูคลิปไม่ได้นะคะ)
ในแต่ละวันเราเอาอะไรใส่ปากบ้าง? บางคนรู้ แต่อาจใส่เข้าไปมากมายจนจำไม่ได้ บางคนจำได้ แต่ตอนใส่อาจไม่รู้ตัว หรือบางคนรู้ตัวแต่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่รู้ว่า กรรมติดอยู่ที่ปลายช้อนนี่เอง
องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า แต่ละคนไม่ควรกิน“น้ำตาล”เกิน วันละ 6 ช้อนชา แต่การสำรวจพบว่าคนไทยกินน้ำตาลเฉลี่ยคนละ 20 ช้อนชา ทั้งนี้ถ้าหากดื่มเครื่องดื่มรสหวานมากกว่าวันละ 1 แก้ว จะเพิ่มความเสี่ยง การเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นถึง 83%เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่ม
สำหรับคนที่ชอบอาหารทอดและมัน ระวังไว้ให้ดี เพราะอาหารมันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ ดังนั้นควรจำกัดปริมาณ “น้ำมัน” ให้อยู่ วันละ 5-9 ช้อนชา หรือถ้าหลีกเลี่ยงอาหารทอดต่างๆได้ก็ยิ่งดี
การกินเค็มมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว ในแต่ละวัน เราไม่ควรกิน “เกลือ” เกิน 1-1.5 ช้อนชา หรือถ้าเป็นพวก ซีอิ๊ว กะปิ ซอสหอยนางรม ก็ไม่ควรเกิน 3 ช้อนชา ผู้ที่กินเกลือเกินวันละ 2 ช้อนชา จะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง สูงถึง 1-2 เท่า แถมโรคไตวายอีกด้วย เพราะความเค็มจะทำให้เกิดการคั่งของน้ำและเกลือส่งผลให้ไตทำงานหนักขึ้น
ดังนั้นควรลดการกินหวาน มัน เค็ม และควรกินผัก ผลไม้ให้มากขึ้น โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ควรกิน “ผักและผลไม้” ให้ได้ 5-8 ถ้วยมาตรฐานทุกวัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
สิ่งที่กินหาซื้อง่าย กินง่ายซะเหลือเกิน จนลืมไปว่า ถ้าอนาคตไขมันในเลือดพอกพูนร่างกายจะเป็นอย่างไร ตับ ไต การรักษาก็ไม่ง่ายเลย ค่าใช้จ่ายในการป้องกัน ถูกว่าการรักษาหลายเท่า จะดีกว่ามั้ยถ้าเราหันมาใส่ใจอาหารมากขึ้น
“อาหารคือ 1 ในปัจจัยเสี่ยงต่อกลุ่มโรค NCDs”
.
คุณ ภูริวัจน์ ธรรมอัครวิทย์ (นัท) อายุ 34 ปี
อยากเลิกเหล้า และบุหรี่ มีไขมันชนิดเลวเกินด้วย
“ผมทำโดยการหักดิบไปเลย ตอนนี้ก็โอเคนะ เมื่อก่อนปกติตื่น 10-11 โมง ก็จะกินข้าวตอนเที่ยง บางทีก็เลยไปตอนบ่าย1-บ่าย3ไปเลย มื้อถัดไปก็เป็น 5-6โมงเย็น มื้อสุดท้ายเป็น 4ทุ่มถึงเที่ยงคืน หมอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนเวลาการกินคือ ตื่นให้เช้า กินข้าว 9โมง กลางวันไม่เกินบ่ายโมง เย็นไม่เกิน1ทุ่ม นอนไม่เกิน5ทุ่ม
ตอนมาสั่งข้าวที่ร้านอาหาร ก็จะสั่งข้าวขาหมูติดหนังติดมัน วันนี้สั่งแบบข้าวขาหมูไม่เอามันไม่เอาหนัง รู้สึกไม่ชินเลย เพราะหนังมันลื่นๆดีรสชาติน้ำมันอร่อยมาก ถ้ากินเนื้ออย่างเดียวมันหยาบๆ ไม่อร่อย
ลองซื้อคากิขาหมูไปแช่ตู้เย็นดูตามคำแนะนำ ก็เห็นว่ามีไขมันอยู่เต็มไปหมดเลย เห็นแล้วก็น่ากลัว เพราะเมื่อก่อนไม่เห็นสนใจเพราะพออุ่นให้ร้อนแล้วมันก็กลับมาเหมือนเดิมอยู่ดี อีกอันนึงที่ตกใจมากคือ หมูกระเทียมของโปรด พอเห็นมันแล้วก็ตกใจจริงๆ เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตุเลย
ผมว่าทุกวันนี้ของมันหากินง่ายมาก ทุกร้านทุกเมนูมีหมด ทั่วกรุงเทพเต็มไปหมด บางอย่างก็มีไขมันแฝงที่เรามองไม่เห็น อีกเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
.
จ.ส.อ.ศาทิพ จิตร์แน่น อายุ 36 ปี
เป็นความดันสูง อยากเลิกบุหรี่ เลิกเหล้า
“ตอนนั้นเอวร้อยกว่าๆเซนติเมตร ตอนนี้เหลือ 97-98 เซนติเมตร จากที่เป็นคนไม่ค่อยรักษาสุขภาพ มาตอนนี้หันมากินอาหารสุขภาพ กินอะไรแบบจืดๆ กินก๋วยเตี๋ยวจะไม่ปรุงเลย เมื่อก่อนปรุงทุกอย่าง
หมอบอกว่า “ความดันต้องควบคุมความเค็ม แต่อาหารบางอย่างมันไม่เค็ม แต่มีโซเดียมแฝง เช่น ผงฟูในขนมปัง ผงชูรส อาหารที่คนที่ความดันสูง ควรระวังคืองผัดซีอิ๊ว เลยลองสั่งผัดซีอิ๊ว แล้วยืนดูแม่ค้าเขาผัด เห็นใส่เครื่องปรุง ซอส ซีอิ๊ว ผงชูรส เยอะมากเกินไป เมื่อก่อนไม่ได้สนใจเลย มาตอนนี้ก็ตกใจเลย”
“ขนมปังนี่ไม่เคยสนใจส่วนผสมเลย พอมาดูแล้วตกใจว่าขนมปังแค่สองแผ่น มีโซเดียมถึง 220 มิลลิกรัม ทั้งๆที่ขนมปังมันไม่ได้มีรสชาติเลยนะ จืดๆ มีโซเดียมได้ไง”
ต่อไปนี้จะซื้ออะไรก็จะต้องดูฉลากก่อนเลย ถามว่าเปลี่ยนเพื่ออะไร “เพื่อสุขภาพเรานี่แหละ ชีวิตดีขึ้นแน่นอน”
.
คุณ วัฒนชัย ลิ้มสวัสดิ์ (อุ้ย) อายุ 28 ปี
เป้าหมายคือเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ลดพุง
เวลาผ่านมา(เขาไม่ได้บอกว่าผ่านมากี่เดือน) ตอนนี้พุงเหลือ 119 เซนติเมตร สรุปลดไป12 เซนติเมตร
หมอแนะนำว่า อาหารอะไรที่ไม่ควรกินเลย คือ ทอด ปิ้ง ย่าง แต่ผัดๆกินได้แต่อย่าใส่น้ำมันเยอะ อาหารที่กินได้ ยำ อบ นึ่ง ตุ๋น
ไข่เจียวมีน้ำมัน 5 ช้อนชา ไข่ดาวมีน้ำมัน 3 ช้อนชา “ต่อไปนี้ก็จะกินไข่ต้ม ไข่ตุ๋น”
“เมื่อก่อนชอบสั่งแม่ค้า ไข่เจียวฟอง ไข่ดาวฟอง ง่ายดี เดี๋ยวนี้ กินไข่ต้มบ้าง ไข่ตุ๋นบ้าง ก็ลำบากเหมือนกัน แต่เพื่อสุขภาพ”
“แล้วเดี๋ยวนี้ก็กินเป็นน้ำพริก ผักลวก ปลานึ่ง แล้วก็เนื้อไก่ โรยพริกไทย ใส่ไมโครเวฟ ออกมากินได้เลย แต่มันมีน้ำมันจากหนังไก่ออกมาเต็มเลย ตกใจมาก เมื่อก่อนเรากินไปได้ไง เลยเลาะหนังไก่ออก เทน้ำมันทิ้งไป รู้สึกว่ารสชาติก็ไม่ได้ต่างกับร้านที่เขาขายมาก อร่อยเหมือนกันเลย”
.
คุณวีรานันท์ แต้ภิรมย์รัตน์ (ส้มโอ) อายุ 25 ปี
เป้าหมายคือ ลดรอบเอว จาก 89 ซม. เหลือ 80 ซม.
ตอนนี้ก็พยายามเพิ่มผัก ผลไม้ มื้อเช้าทานก๋วยเตี๋ยว พวกเกาเหลา ไม่ใส่กระเทียมเจียวไม่ใส่เครื่องใน ชิมก่อนปรุง “มันก็รู้สึกว่ามันพอดีแล้วนะ อย่างมากก็พริก เมื่อก่อนไม่ได้เลย ต้องใส่น้ำตาล น้ำปลาอย่างน้อยๆสองช้อน”
“อยู่บ้านก็จะเตรียมวัตถุดิบมาทำอาหาร ซื้อพวกสันในไก่ มาทำซุปไก่ เมื่อก่อนจะสั่งเอามันติดเนื้อ ตอนนี้ต้องเอาเนื้อไม่ติดมัน”
“ชอบกินบุฟเฟ่ต์หมูกะทะมื้อเย็น เพราะเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อยากเจอเพื่อน ก็มากิน แต่ก็กินแบบเนื้อๆไม่ติดมัน ผักเยอะๆ”
.
คุณเจน (ภรรยา) และคุณ สุพิเชษฐ์ สุจารีรัตน์(สามี) อายุ 33 ปี
เป้าหมายคือลดพุงรวมกันให้ได้ 20 ซม.
เริ่มต้น คุณสุพิเชษฐ์ รอบเอว 113 ซม. ตอนนี้ 97 ซม. ลดไป 16 ซม.
คุณเจน เมื่อก่อน 113 ซม. ตอนนี้ 93 ซม. ลดไป 20 เซน
สรุป ลดพุงรวมกันได้ 36 ซม.
เมื่อก่อนเป็นครอบครัวปลอดผัก แต่ตอนนี้ต้องมีผักทุกมื้อ น้ำสลัดเปลี่ยนเป็นแบบน้ำใส ผักต้องล้างให้สะอาด เมื่อก่อนไม่ค่อยกินผักเลย ไม่ค่อยรู้จัก ผลไม้เอามาแช่น้ำโรยเกลือ แช่ไว้10นาที เปลี่ยนเนื้อสัตว์ใหญ่เป็นปลา
ครอบครัวนี้ทำได้ดีมากๆ พาเด็กๆมาให้ช่วยเลือกของในตู้เย็น ว่าอันไหนควรเอาออกบ้าง
แล้วก็ลองซื้อน้ำหวานๆ ที่เมื่อก่อนเคยซื้อมากินประจำ เอามาลองดูปริมาณน้ำตาล ใน1วันไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา แต่เวลาดูข้างขวดเขาไม่ได้บอกเป็นช้อนชา เขาบอกเป็นกรัม ดังนั้นต้องจำว่า 1 ช้อนชา เท่ากับ 4 กรัม ปรากฏว่า
น้ำอัดลม 1 แก้ว น้ำตาล 26 กรัม ถ้าน้ำอัดลมทั้งขวด 1.25 ลิตร ก็จะได้น้ำตาลทั้งขวดประมาณ 39 ช้อนชา
นมเปรี้ยว 200 มิลลิลิตร น้ำตาล 32 กรัม จำนวนหน่วยบริโภค 3.5 ถ้านมเปรี้ยวขวดใหญ่ ก็จะได้น้ำตาลทั้งขวด 28 ช้อนชา
น้ำอัดลมกระป๋อง1กระป๋องมี น้ำตาล 41 กรัม จะได้น้ำตาลทั้งกระป๋อง 10 ช้อนชา
ครอบครัวนี้ตกใจกันระนาว ว่าเมื่อก่อนกินเข้าไปได้ยังไง
.
คุณ ปัญจพล เพชรเกษม (มิ้ว) อายุ 29 ปี เป็นเบาหวาน
ตอนนี้เปลี่ยนจากกินชาเขียวที่มีน้ำตาลเป็นแบบไม่มีน้ำตาล เบาหวานไม่ใช่กินแต่ผักผัก ลองทำแกงจืดสามสหาย มีปลา กุ้ง ไก่ รากผักชี กระเทียม ต้นหอม ผักชี กะหล่ำปลี แครอท ทุกวันนี้ก็พยายามกินแบบจืดๆ