ลดน้ำหนักแบบโลว์คาร์บ (Atkin’s Diet / Low-Carb)
สูตรนี้อ้างว่า สามารถลดน้ำหนักได้ 6-7 กิโลกรัม ภายใน 2 สัปดาห์
.
ทฤษฎี
คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้ จะเข้าไปสะสมเป็นไขมัน เขาเปรียบร่างกายเหมือนเครื่องยนต์ ที่ต้องใช้พลังงาน คาร์โบไฮเดรตก็เหมือนน้ำมันเติมรถยนต์ ถ้าไม่เติมเข้าไป ร่างกายเราก็จะใช้พลังงานสำรอง นั่นก็คือ ไขมันในตัวเรานั่นเอง
สรุปแล้วคือ ทานคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก แต่ให้ทานโปรตีนและไขมันมากๆแทน
.
วิธีการ
ทานมื้อหลัก 3 มื้อ มื้อว่าง 2 มื้อ โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ
ระยะแรก
- ทานคาร์โบไฮเดรตไม่ต่ำกว่า 18 กรัม แต่ห้ามเกิน 22 กรัมต่อวัน โดยที่ 12-15 กรัม ต้องเป็นคาร์โบไฮเดรทที่มาจากผัก ผลไม้เท่านั้น และระวังคาร์บที่แอบแฝง ซึ่งมีอยู่มากโดยที่เราแทบคิดไม่ถึง (วิธีนี้เคร่งมากเรื่องคา ร์โบไฮเดรต ห้ามเกินเด็ดขาด ต้องใช้ความคิดคำนวน และช่างสังเกตุทุกอย่าง เพราะถ้าได้คาร์โบไฮเดรตเกิน ร่างกายจะไม่ดึงไขมันมาใช้ ที่สำคัญคือ ถ้าให้แน่ใจว่า คาร์โบไฮเดรตจะไม่เกิน ก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของ Atkins เท่านั้น )
- ไขมัน ให้ทานได้ถึง 63% ของแคลอรี่ทั้งหมด (ในขณะที่สาธารณสุขแนะนำให้ทานไขมัน 20-35%) แต่ควรเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพด้วย
- โปรตีน ทานได้อยู่ในช่วง 10-35% เน้นทานเนื้อสัตว์ได้ทุกอย่าง เน้น ถั่วเคี้ยวเล่น เมล็ดพืช เมล็ดถั่วต่างๆ ชีส
- ดื่มน้ำ แก้วละ 266 ซีซี วันละ 8 แก้ว
- ควรอยู่ในระยะแรกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่ถ้าน้ำหนักเกินเยอะ ควรลดให้ได้ก่อน 7 กิโลกรัม ค่อยเปลี่ยนเป็นระยะที่สอง
.
ระยะที่สอง ยังคงจำกัดคาร์โบไฮเดรตเหมือนระยะแรก แต่ให้เพิ่มคาร์โบไฮเดรตได้นิดหน่อย เช่น เบอร์รี่ เชอร์รี่ เมล่อน นม โยเกิร์ต น้ำมะเขือเทศ ควรอยู่ในระยะที่สองนี้จนกว่าจะลดน้ำหนักได้ 4.5 กิโลกรัม
.
ระยะที่สาม ก็ยังคงจำกัดคาร์โบไฮเดรตเหมือนระยะที่สอง แต่เพิ่มคาร์โบไฮเดรตขึ้นอีกนิด เช่น ผลไม้ ผักที่มีแป้ง โฮลเกรน ควรอยู่ในระยะนี้จนกว่าจะได้น้ำหนักที่พอดี และสามารถประคองน้ำหนักนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
.
ระยะที่สี่ ก็คือระยะที่ต้องรักษาการกินแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่สามารถเพิ่มคาร์โบไฮเดรตขึ้นได้บ้าง แต่ยังยึดหลักคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ไม่ต่ำเหมือนระยะแรก แต่ก็ห้ามคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีพวกข้าวขาว ขนมหวาน แป้งขัดสี แปรรูปต่างๆ ซึ่งกว่าจะมาถึงระยะนีี้ ทุกคนต้องได้เรียนรู้ และสามารถจัดการอาหารของตัวเองได้อยู่แล้ว สามารถปรับเปลี่ยน ทดลองสูตรของตัวเอง
รายละเอียดสูตรอาหารต่างๆ มักจะเป็นวัตถุดิบของต่างประเทศ คนไทยควรปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวัตถุดิบของไทยเองได้
.
อันตรายมั้ย
สูตรนี้จะเห็นผลได้ดีพอสมควร ในสองสัปดาห์แรก แต่มีการศึกษา และงานวิจัยที่หลากหลาย โดยสรุปได้ดังนี้
ตัวอย่างงานวิจัยแรก เผยแพร่ในนิตยสารทางการแพทย์ British Medical Journal ในปี 2006 ว่า สูตรลดน้ำหนักของ Atkins หรือ สูตรโลว์คาร์บ สามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 4-5 กิโลกรัมในสัปดาห์แรก ในขณะที่สูตรอื่นๆ ลดได้ 2-3 กิโลกรัม แต่ถ้าเปรียบเทียบกัน ใน1เดือน ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่นัก
.
งานวิจัยชิ้นที่สอง เผยแพร่ใน Journal of the Amercan Medical Association ในปี 2007 ว่าได้มีการศึกษาในคนที่น้ำหนักเกิน 300 คน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกินแป้งต่ำ(Atkins) ,กลุ่มกินไขมันต่ำ ,กลุ่มกินไขมันอิ่มตัวต่ำ-คาร์โบไฮเดรตกลางๆ และ กลุ่มกินสารอาหารสมดุล ผลปรากฏว่า
ผ่านไป2เดือน กลุ่มกินแป้งต่ำ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 4 กิโลกรัม แต่กลุ่มที่เหลืออีก3กลุ่ม ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 2-3 กิโลกรัม
เมื่อผ่านไป 6 เดือน กลุ่มกินแป้งต่ำ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 6 กิโลกรัม แต่กลุ่มที่เหลือ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 2-3 กิโลกรัม
ผ่านไป 12 เดือน กลุ่มกินแป้งต่ำ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 4.5 กิโลกรัม แต่กลุ่มที่เหลือ ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 2-3 กิโลกรัม
แต่งานวิจัยยังไม่ฟันธงแน่ชัด เพราะผู้ทดลองมักไม่ได้ทำตามสูตรมากนัก อย่างกลุ่มกินแป้งต่ำ ก็กินแป้งมากกว่าที่กำหนด
.
งานวิจัยชิ้นที่สาม เผยแพร่ใน Annals of Internal Medicine ในปี 2010 บอกว่าสูตรนี้ ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เพราะแม้ว่าภายใน1ปี จะลดน้ำหนักได้ 11%ของน้ำหนักตั้งต้น แต่น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น1ใน3 ของน้ำหนักที่ลดอยู่ดี (ผู้วิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนัก 5-10%ของน้ำหนักตั้งต้น)
.
งานวิจัยชิ้นที่สี่ เผยแพร่ใน New England Journal of Medicine ในปี 2009 บอกว่าผู้เข้าร่วมทดลอง ลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเดือนละ 2.7-3 กิโลกรัม แต่ Journal of the American Medical Association ในปี 2003 พบว่าผู้เข้าร่วมทดลอง มักจะลดแคลอรี่ แต่ไม่ได้ลดคาร์โบไฮเดรต
.
อีกอันหนึ่งได้เผยแพร่ในนิตยสาร Obesity ในปี 2012 ซึ่งได้เปรียบเทียบงานวิจัย 17 งาน โดยมีตัวอย่าง 1141 คน พบว่า ลดน้ำหนักได้ 8 กิโลกรัม ใน6-12เดือน แล้วก็ดูรูปร่างเปลี่ยน เอวเล็กลงด้วย
.
มีงานวิจัยบางส่วนที่บอกว่า สูตรนี้ช่วยเพิ่ม HDL และลดความดัน ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ แต่งานวิจัยส่วนมากก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือ
.
ความเสี่ยงต่อสุขภาพระยะสั้นยังไม่ทราบ แต่มีรายงานถึงผลกระทบบ้าง เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เวียนหัว ท้องผูก อารมณ์หงุดหงิด ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น สำหรับในระยะยาวยังไม่มีการศึกษาที่ที่แน่นอน
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผู้ที่ตั้งครรภ์ เด็ก และผู้ป่วยเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
.
ความยากในการปฏิบัติ
ยากสำหรับคนที่ติดหวาน ติดแป้งแน่นอน แต่ทางผลิตภัณฑ์ของAtkin เลยต้องออกสินค้าต่างๆที่มีรสหวาน เหมือนขนม แต่มีคาร์โบไฮเดรตน้อย ออกมาจำหน่าย
.
ต้องออกกำลังกายมั้ย
สูตรนี้ไม่ได้บังคับ ยังบอกว่าไม่ต้องออกกำลังกายเลยก็ได้ แต่ถ้าทำได้ก็จะดีต่อสุขภาพ
.
อ้างอิงจาก health.usnews.com , atkins.com
หมายเหตุ : เป็นการรวบรวมสูตรลดน้ำหนักต่างๆในต่างประเทศ ไม่ได้บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ หรือดีหรือไม่ดีนะ ควรใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการรับข้อมูล
กลับหน้าแรก ezygodiet.com