“กรด” นำพา “ความแก่”
ทุกๆพื้นที่ของร่างกายของเรา ถูกออกแบบมา ให้ทำงานในสภาวะที่แตกต่างกัน ความเป็นกรด เป็นด่าง แต่ละที่ก็แตกต่างกัน โดยที่ร่างกาย สามารถควบคุมความสมดุลนี้ได้ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่ร่างกายอยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุล ก็จะตอบสนองออกมาให้เรารู้สึก เช่น การป่วย การเป็นโรคต่างๆ เป็นสิว ฝ้า กระดูกพรุน มะเร็ง โรคหัวใจ แก่ก่อนวัย ผมร่วง เล็บเปราะ มีปัญหาสุขภาพจิต โรคตับ ไตล้มเหลว โรคสะเก็ดเงิน เมื่อยล้า ไอ เป็นหวัด อาการPMS หรืออาการทางอารมณ์แบบหงุดหงิดก่อนมีประจำเดือน อารมณ์แปรปรวน โรคอ้วน เบาหวาน เสื่อมสมรรถภาพ ปวดหัว เวียนหัว ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนมาจากการมีกรดในร่างกายมากเกินไปทั้งนั้น
เราลองนึกถึงบ้านของเรา หากมีขยะหรือสิ่งสกปรก เราก็จะเก็บใส่ถุงนำไปทิ้ง หรือไม่ก็เอาน้ำล้างออก เช่นเดียวกันเมื่อร่างกายมีขยะ สารพิษ หรือส่วนเกิน เช่น “กรดมากเกินไป” ร่างกายจะพยายามรักษาสมดุล โดยใช้ “ด่าง” ชะล้างความเป็นกรด หนทางหนึ่งในการดึงด่างมาก็คือ ดึงมาจากกระดูกของเรานั่นเอง (กระดูกมีแคลเซียม รวมตัวกับ คาบอน จะมีสภาวะด่าง) นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ “กระดูกพรุน”
อีกทางหนึ่ง ที่ร่างกายจะกำจัดกรดออกไปได้คือ ทิ้งไปใน “ระบบน้ำเหลือง” ระบบน้ำเหลืองมีหน้าที่หลายอย่าง แต่หนึ่งในหน้าที่หลักนั้นก็คือ เป็นระบบกำจัดของเสีย และสารส่วนเกินนั่นเอง คงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมถึงพบว่ามีการอุดตันทางระบบน้ำเหลืองอยู่บ่อยๆ
การกำจัดกรด ที่เห็นได้ง่ายด้วยตาเปล่า ทันทีทันใดนั่นคือ “ทางผิวหนัง” ปรากฏให้เห็นเป็นผื่น ปวดหัว สิวขึ้น ฝี อักเสบ หน้ามัน มีปัญหาด้านผิว เล็บ เส้นผม
ระบบที่สำคัญ ในการกำจัดกรดที่เกินอีกอันคือ “ระบบหมุนเวียนเลือด” ซึ่งจะส่งผลต่อทุกๆส่วนของร่างกาย เพราะเลือดไหลไปทั่วร่างกาย แต่ที่มากที่สุด คงหนีไม่พ้น ปอด และไต แล้วก็สามารถกระโดดไปอวัยวะใกล้เคียงได้ เช่น หัวใจ ตับ ลำไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อเยื่อไขมัน เพราะไขมันเป็นส่วนที่ห่อหุ้มสารพิษได้ดี และไขมันก็มักรวมกันที่อยู่เต้านม สะโพก ต้นขา หน้าท้อง อย่างที่ปรากฏให้เราเห็นเป็น ” เซลลูไลท์ “ นั่นเอง และที่เลวร้ายที่สุดคือ ไขมันมีมากใน สมอง นี่อาจคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นโรค “สมองเสื่อม” กระบวนการทั้งหมดที่ว่ามานี้ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยง หรือหนีมันพ้นได้ เพราะมันคือ กระบวนการนำไปสู่ ” ความแก่ “
(สรุปข้อมูลจาก energiseforlife.com)