TDEE กับ BMR ต่างกันอย่างไร
BMR
- ย่อมาจาก Basal Metabolic Rate
- แปลแบบตรงตัวคือ อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน
- แปลแบบง่ายๆคือ พลังงานที่เราต้องการเพื่อ “รอดชีวิต”
- ตัวเลขที่ได้คือ ปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการ ในการทำงานพื้นฐานของร่างกาย เช่น หัวใจเต้น สูบฉีดเลือด ผลิตฮอร์โมน การทำงานของอวัยวะทุกอย่าง ฯลฯ
- วิธีคำนวน BMR
TDEE
- ย่อมาจาก Total Daily Energy Expenditure
- แปลแบบตรงตัวคือ พลังงานที่ใช้ทั้งหมดในชีวิตประจำวัน
- แปลแบบง่ายๆคือ พลังงานที่เราต้องการเพื่อ “ใช้ชีวิต”
- ตัวเลขที่ได้คือ ปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการ ในการทำงานพื้นฐานของร่างกาย + กิจกรรมอื่นๆ เช่น เดิน วิ่ง ทำงาน ออกกำลังกาย เล่นกีฬา ทำกิจกรรม ฯลฯ
- วิธีคำนวน TDEE
.
การคำนวณหาค่า TDEE
TDEE = BMR x Activity Factor
Activity Factor คือ ปัจจัยด้านกิจกรรม
- Activity Factor = 1.2 ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายเลย หรือออกกำลังกายแค่เล็กน้อยเท่านั้น
- Activity Factor = 1.375 ถ้ามีการออกกำลังกาย 1-3 วันต่อสัปดาห์
- Activity Factor = 1.55 ถ้ามีการออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์
- Activity Factor = 1.725 ถ้ามีการออกกำลังกาย 6-7 วันต่อสัปดาห์
- Activity Factor = 1.9 ถ้ามีการออกกำลังกายอย่างหนักมาก
.
TDEE มีประโยชน์อย่างไร
- เพื่อรักษาน้ำหนัก ควรได้รับแคลอรี่ ไม่ต่ำกว่า และไม่สูงกว่า ตัวเลขที่คำนวนได้ น้ำหนักก็จะไม่ลด และไม่เพิ่ม
เช่น TDEE = 1800 หมายถึง ควรกินไม่เกินและไม่ต่ำกว่า 1800 แคลอรี่ต่อวัน
- เพื่อลดน้ำหนัก ควรได้รับแคลอรี่ ต่ำกว่าตัวเลขที่คำนวนได้ ถ้าผลต่างพลังงานที่ขาด ครบ7000 แคลอรี่ จะทำให้ลดไขมันได้ 1 กิโลกรัม
เช่น TDEE = 1800 หมายถึง ควรกินต่ำกว่า1800 แคลอรี่ต่อวัน ถ้ากินไม่เกิน1300 แคลอรี่ต่อวัน ส่วนต่าง 500 ที่ขาดไ ป ก็จะดึงพลังงานสะสมในร่างกายออกมาใช้ ถ้าขาดวันละ 500 ทุกวัน ภายใน 14 วัน น้ำหนักไขมันควรจะหายไป1 กิโลกรัม
- เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ควรได้รับแคลอรี่ สูงกว่าตัวเลขที่คำนวนได้ น้ำหนักควรจะเพิ่มขึ้น
เช่น TDEE = 1800 หมายถึง ควรกินเกิน 1800 แคลอรี่ต่อวัน
.
ข้อสังเกตุ
- ค่าที่ได้จากการคำนวน มักมีความคลาดเคลื่อน
- กิจกรรมอาจไม่สม่ำเสมอ อาจไม่เหมือนเดิมตลอด
- อาหารส่วนใหญ่ ยากที่จะคำนวนแคลอรี่
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราส่วนสารอาหาร (Macronutrients Ratio)
อ้างอิงจาก bmi-calculator.net